ถามแพทย์

  • ขาหนีบมีก้อนบวมและปวดมา 1 สัปดาห์ ตอนแรกปวดข้างเดียว ตอนนี้ 2 ข้าง เป็นอะไร

  •  Bella Bella
    สมาชิก
    หนูปวดขากนีบมาอาทิตย์นึงแล้วค่ะ ตอนแรกก้จะมีอาการบวมปวดหน่อยๆค่ะ เพื่อนเรียก ลูกหนูบางคนเรียกไข่ดัน หนุก้ไม่รุ้ว่าคืออะไร พอกินยาไปสักอาทิตย์นึง มันไม่มีอาการดีขึ้นเลยค่ะ มันบวมและปวดมากกว่าเดิม จากตอนแรกปวดแค่ข้างเดียว ตอนนี้เริ่มเพิ่มมาอีกข้างค่ะ ...หนุไม่ได้นอนกับแฟนตั้งแต่ ปจด หาย ประมาน3อาทิตแล้วค่ะที่ยังไม่นอนกับแฟนเลย หนูอยากรุ้ว่าเปงอะไร มันอันตรายมั้ย และต้องทำยังไงบ้างค่ะ เพราะตอนนี้ปวดมาก และเดินก้ปวดมากค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Bella Bella,

                          การมีก้อนบวมที่ขาหนีบและปวด อาจเป็น

                          1. ต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบโต (ซึ่งในภาษาพูด อาจเรียกลูกหนู หรือไข่ดัน) มักเกิดจาก

                             - การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน ฝีมะม่วง เป็นต้น 

                            - การมีแผลอักเสบติดเชื้อบริเวณขาเป็น ๆ หายๆ หรือมีแผลเรื้อรังอยู่

                           ส่วนสาเหตุที่พบน้อยและมักมีอาการอื่นๆ มากกว่านี้ร่วมด้วย เช่น การติดเชื้อวัณโรค มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งของเซลล์ที่ผลิตเม็ดสี (malignant melanoma) เป็นต้น

                         2. เป็นฝีของชั้นผิวหนังและเนื้อเยื่อ แต่ก็ไม่น่าเป็นทั้ง 2 ข้าง

                         3. ก้อนเนื้องอกของเนื่อเยื่อบริเวณนั้น เช่น ก้อนไขมัน ก้อนซีสต์ เป็นต้น แต่มักไม่มีอาการบวมแดง หรือปวด และไม่น่าเกิดขึ้นทั้ง 2 ข้าง

                         4. ไส้เลื่อนชนิด femoral hernia ซึ่งจะพบเฉพาะในผู้หญิง เกิดจากลำไส้เคลื่อนผ่านรูเปิดที่ชื่อว่า femoral canal มากองเป็นก้อนตรงบริเวณที่ต่ำกว่าขาหนีบเล็กน้อย แต่ก็ไม่น่าเกิดทั้ง 2 ข้างเช่นกัน

                         5. ไส้เลื่อนขาหนีบ (inguinal hernia) ส่วนใหญ่จะพบในผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็อาจพบได้บ้าง แต่ก็น้อยมาก ก้อนของไส้เลื่อนจะอยู่ตรงบริเเวณขาหนีบพอดี 

                        หากมีอาการปวดมากดังกล่าว แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาตามสาเหตุค่ะ