ถามแพทย์

  • มีตุ่มขึ้นที่หน้าและศีรษะ มีเจ็บแปล๊บๆ ก่อนหน้านี้มีปวดกระบอกตา ปวดหัว จะเป็นเซบเดิร์มไหม

  •  Paabl3
    สมาชิก
    มีอาการเจ็บแปล๊บๆเป็นระยะๆบริเวณขมับและศีรษะค่ะ เหมือนมันจะลามขึ้นเรื่อยๆ ลักษณะตุ่มเหมือนอาการแพ้ เลยทานยาแก้แพ้และ ibuprofen ร่วมด้วยตามที่เภสัชกรแนะนำ ก่อนหน้านี้มีอาการปวดกระบอกตา ลามไปปวดขมับและปวดหัว ไม่แน่ใจว่าเป็นอาการเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ สงสัยว่าจะเป็นอาการของโรคเซ็บเดิร์มรึเปล่าค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Paabl3,  

                         การมีตุ่มขึ้นที่หน้าและศีรษะ ร่วมกับอาการเจ็บแปล๊บๆ ปวดกระบอกตา ปวดขมับ ปวดหัว อาจเกิดจาก 

                         1. งูสวัด คือโรคติดเชื้อไวรัส โดยเกิดจากการที่เคยติดเชื้ออีสุกอีใสมาก่อน เมื่อหายเป็นปกติแล้ว เชื้อดังกล่าวก็จะอยู่ในร่างกายเราไปตลอดชีวิต โดยจะเข้าไปอยู่บริเวณปมประสาทของร่างกาย เมื่อร่างกายอ่อนแอ เชื้อก็จะออกจากปมประสาทและทำให้เกิดโรคที่ผิวหนังตามเส้นประสาทของผมประสาทนั้นๆ  ซึ่งเรียกว่า งูสวัด  โดยลักษณะของโรคงูสวัด คือจะเป็นผื่นที่เป็นตุ่มน้ำใสอยู่กันเป็นกลุ่ม ละมีอาการปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย บางรายอาจมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย  ร่วมด้วย หลังจากนั้น ตุ่มน้ำจะค่อย ๆ แห้งตกสะเก็ดไปใน 7-10 วัน 

                       2. ผื่นที่เกิดจากการแพ้หรือระคายเคือง แต่มักมีอาการคัน มากกว่าที่จะทำให้เกิดอาการเจ็บและปวด และไม่น่าทำให้ปวดหัว ปวดกระบอกตา

                        3. การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ผิวหนัง ซึ่งมักจะเกิดเป็นตุ่มหนองให้เห็น ผิวหนังบริเวณรอบๆ จะบวมแดงอักเสบ มักมีอาการไข้และปวดเมื่อยร่วมด้วย

                        4. การโดนด้วงก้นกระดกกัด อาการจะคล้ายๆ กับโรคงูสวัดได้

                        สำหรับโรคผิวหนังอักเสบชนิด seborrheic dermatitis หรือโรคเซบเดิร์ม อาการจะเป็นได้หลายรูปแบบ หากเป็นที่ศีรษะจะมีอาการที่เป็นรังแคมาก ส่วนผิวหนังบริเวณอื่นๆ มักพบบริเวณผิวหนังที่มีต่อมไขมันมาก เช่น บริเวณหลังใบหู หัวคิ้ว ระหว่างคิ้ว ซอกจมูก อก ไหล่  โดยจะพบเป็นผื่นแดง มีขุย มีสะเก็ดสีออกเหลืองมันๆ ไม่ได้ทำให้เจ็บ แสบ หรือปวดแต่อย่างใด ดังนั้น ลักษณะอาการที่คุณ Paabl3 เป็นอยู่ ไม่ได้เข้ากับโรคเซบเดิร์มค่ะ  

                         ดังนั้น หากเคยมีประวัติเป็นอีกสุกอีใสมาก่อนในวัยเด็ก หรือวัยใดก็ตาม และตุ่มที่เกิดขึ้นนั้น อยู่แค่ซีกเดียวของร่างกาย คืออยู่แค่ซีกซ้ายหรือขวา ไม่ได้เป็นทั้ง 2 ซีก ก็อาจเป็นโรคงูสวัดได้ แต่หากเป็นทั้ง 2 ฝั่งของร่างกาย ก็ไม่ใช่งูสวัด ทั้งนี้ แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อให้การวินิจฉัยที่ถูกต้อง จะได้รับยารักษาให้ตรงกับโรคค่ะ 

                         ในเบื้องต้น ควรหลีกงดการไปแกะ เกา หรือบีบตุ่มดังกล่าว ไม่ทายาใดๆ และควรงดทาแป้ง ทาครีมหรือโลชั่นที่ใบหน้าไปก่อน ส่วนอาการปวดหัว ปวดกระบอกตา สามารถทานยา ibuprofen ตามที่เภสัชกรแนะนำได้ แต่ต้องไม่แพ้ยาชนิดนี้ค่ะ