มีเม็ดตุ่มๆ ขึ้นที่อวัยวะเพศชาย เกิดจากอะไร เกิดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ มีอาการแสบๆ

สวัสดีค่ะ คุณ Tuiiii,

                    เม็ดตุ่มๆ ที่อวัยวะเพศชาย อาจเกิดได้จาก  

                   1. การแพ้สัมผัสหรือระคายเคืองต่อสารเคมีต่างๆ เช่น สบู่ แป้งที่นำมาทา หรือแพ้ถุงยางอนามัย มักมีอาการคันร่วมด้วย   

                   2. การโดนแมลงสัตว์กัดต่อย    

                   3. เป็นอาการเริ่มแรกของโรคเริมที่อวัยวะเพศ ซึ่งเป็นติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยเริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใส ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกและกลายเป็นแผล ร่วมกับมีอาการเจ็บ ปวดและแสบมาก ไม่ค่อยมีอาการคัน

                   4. ซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์เช่นกัน เริ่มแรกจะเป็นตุ่มนูนๆ มักมีตุ่มเดียว ไม่เจ็บหรือคัน ต่อมาตุ่มจะกลายเป็นแผล ขอบแผลเรียบยกนูนและแข็ง พื้นแผลมีสีแดงและดูสะอาด 

                   5 หูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์เช่นกัน แต่จะปรากฏหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วนานเป็นเดือน โดยจะเห็นเป็นติ่งเนื้อหรือตุ่มเนื้ออ่อนๆ สีชมพูหรือสีเนื้อ ผิวมักขรุขระ อาจมีอาการคันร่วมด้วย 

                   6. หูดข้าวสุก ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน แต่จะปรากฏหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วนานหลายสัปดาห์ ลักษณะคือเป็นตุ่มนูนสีเหลืองหรือสีเนื้อ ผิวเรียบเป็นมันคล้ายไข่มุก ตรงกลางมีรอยบุ๋ม เมื่อกดหรือบีบให้แตก จะมีเนื้อเละ ๆ สีขาวคล้ายข้าวสุกไหลออกมา มักไม่มีอาการเจ็บหรือคัน 

                     7. หากเกิดเฉพาะที่ปลายองคชาต อาจเป็นปลายองคชาตอักเสบ (balanitis) โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรีย อาการคือผิวหนังที่บริเวณปลายองคชาตจะบวมแดง หรืออาจมีผื่นแดง และมีอาการคัน หรือเจ็บแสบร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีน้ำเหลืองข้นๆ ออกจากท่อปัสสาวะได้ 

                    ในเบื้องต้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งต่างๆ ที่อาจทำให้แพ้ไปก่อน เช่น ไม่ใช้สบู่ที่ไม่เคยใช้ ล้างฟองสบู่ออกให้หมด ไม่ทาแป้ง งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน และห้ามการแคะ แกะเกา เป็นต้น หากตุ่มไม่หายไป หรือแตกออกหลายเป็นแผล ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ หรือหากฝ่ายหญิงมีอาการผิดปกติร่วมด้วย เช่น มีตกขาวผิดปกติ มีผื่นหรือแผลที่อวัยวะเพศ ก็ควรไปพบแพทย์ด้วยกันค่ะ