ถามแพทย์

  • ปวดท้องน้อย จุกและแน่น ฉี่แล้วปวดท้องน้อยมาก เป็นอะไร

  •  Momaymay
    สมาชิก

    พอดีเมื่อกลางดึนวันก่อน มีอาการปวดท้องมากค่ะ เลยลุกขึ้นมาหายากิน ซึ่งในตอนนั้น กินยา Air-x ไป 3 เม็ด เพื่อที่จะให้อาการปวดท้องหาย ซึ่งเบื้องต้นอาการที่เป็นคือ ปวดท้องน้อย จุกและแน่น หลังจากนั้นตอนเช้าตอนเข้าห้องน้ำก็ฉี่แบบปวดท้องน้อยมากค่ะ อาการแบบนี้จะเป็นอะไรบ้างค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Momaymay,

                      1.อาการปวดท้องน้อย หากเป็นด้านซ้าย อาจเกิดจาก

                     - ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านซ้ายล่างอักเสบ นอกจากปวดท้องแล้ว มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายอุจจาระเหลวร่วมด้วย

                     - ปีกมดลูกด้านซ้ายอักเสบ แต่จะมีอาการตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                     - ท้องนอกมดลูกที่ปีกมดลูกด้านซ้าย จะมีอาการขาดประจำเดือน แล้วตามด้วยการมีเลือดออกผิดปกติ

                      - มีซีสต์ในรังไข่หรือปีกมดลูกด้านซ้าย เป็นเนื้องอกของรังไข่หรือปีกมดลูกด้านซ้าย อาการปวดมักเป็นต่อเนื่อง และอาจคลำได้ก้อนหรือท้องดูโตขึ้น

                      - ถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ อาการจะเป็นต่อเนื่องและค่อยๆ รุนแรงขึ้น มักมีไข้ร่วมด้วย

                       - การมีท้องผูก 

                       2. แต่อาการปวดท้องน้อย เป็นด้านขวา อาจเกิดจาก

                      - ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านขวาล่างอักเสบ นอกจากปวดท้องแล้ว มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายอุจจาระเหลวร่วมด้วย

                      - ปีกมดลูกด้านขวาอักเสบ แต่จะมีอาการตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                      - ท้องนอกมดลูกที่ปีกมดลูกด้านขวา จะมีอาการขาดประจำเดือน แล้วตามด้วยการมีเลือดออกผิดปกติ

                      - มีซีสต์ในรังไข่หรือปีกมดลูกด้านขวา เป็นเนื้องอกของรังไข่หรือปีกมดลูกด้านขวา 

                       - ไส้ติ่งอักเสบ อาการปวดจะรุนแรงเรื่อยๆ ภายใน 1-2 วัน และจะมีไข้ร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีท้องเสีย ท้องอืด อาเจียน ปัสสาวะผิดปกติ ร่วมด้วย 

                       3. แต่หากอาการปวดท้องน้อยเกิดขึ้นบริเวณตรงกลาง อาจเกิดจาก

                        - มีมดลูกอักเสบ หรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ นอกจากจะทำให้มีปวดท้องน้อย จะมีตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                        - กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยจะมีอาการปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อย แสบหรือขัดเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะขุ่น เป็นต้น

                         - มีเนื้องอกหรือซีสต์ที่มดลูกหรือรังไข่ 

                         - กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องบาดเจ็บ เช่น จากการเล่นกีฬา ออกกำลังกาย ซิทอัพ วิดพื้น ยกของหนัก เป็นต้น มักจะมีจุดกดเจ็บที่ชัดเจน โดยจะเจ็บเมื่อกดไม่ลึกมากนัก หรืออาจเจ็บตามท่าทาง

                           หากอาการปวดท้องเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วม โดยเฉพาะอาการมีไข้ หรือมีเลือดออกจากช่องคลอด แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ ในเบื้องต้น แนะนำไม่ควรทานยา Air-X ต่อ เพราะยานี้จะใชัรักษาบรรเทาอาการท้องอืด แน่นท้องจากการมีแก๊สในทางเดินอาหารมากไป ซึ่งหากอาการปวดท้องเกิดขึ้นที่บริเวณท้องน้อย ไม่ได้ปวดบริเวณตรงกลางท้องหรือส่วนบนของช่องท้อง ก็ไม่น่าเป็นลักษณะอาการปวดท้องจากท้องอืดค่ะ ส่วนการดูแลด้านอื่นๆ เช่น การดื่มน้ำเปล่ามากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ปล่อยให้มีท้องผูก เป็นต้น