-
ปวดท้องตั้งเเต่เมื่อวานยังไม่หาย กินยาเคลือบกระเพาะ อาการดีขึ้นเล็กน้อย ควรทำอย่างไร
-
Mar 01, 2022 at 02:03 PM
มีอาการปวดท้องตั้งเเต่เมื่อวาน จนตอนนี้ยังไม่หาย จึงกินยาเคลือบกระเพาะไป 1 ช้อนเเต่ผ่านมาสักพักอาการดีขึ้นเล็กน้อย เพราะยังมีอาการปวดอยู่ ควรทำยังไงดี เเล้วก็ยาเคลือบกระเพาะกินท้องว่างได้ไหมหรือกินหลังอาหาร/ก่อนอาหาร ควรกินกี่ช้อนชาดีMar 01, 2022 at 02:12 PM
สวัสดีค่ะ คุณ sodaandcream,
อาการปวดท้อง ไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคกระเพาะเพียงอย่างเดียว โดยสาเหตุจะแบ่งออกได้ตามตำแหน่ง คือ
1. ปวดท้องบริเวณด้านขวาบน สาเหตุ ได้แก่
- ตับอักเสบ ท่อน้ำดีอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ แต่มักจะมีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองร่วมด้วย และอาจมีไข้ร่วมด้วย
- นิ่วในถุงน้ำดี จะทำให้ปวดบิดรุนแรงเป็นพักๆ ตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือใต้ชายโครงด้านขวา และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย อาการปวดท้องมักเกิดขึ้นหลังจากที่รับประทานอาหารมัน ๆ หรือรับประทานอาหารมื้อหนัก หรือตอนกลางคืน
- การอักเสบของลำไส้ส่วนที่อยู่บริเวณช่องท้องขวาด้านบน มักมีอาการถ่ายอุจจาระเหลว คลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
2. ปวดท้องบริเวณด้านขวาล่าง สาเหตุ ได้แก่
- ไส้ติ่งอักเสบ อาการปวดจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 24-48 ชั่วโมง อาการปวดจะเป็นต่อเนื่องตลอดเวลา ร่วมกับมีไข้ และอาจมีคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูกหรือท้องเสีย หรือท้องอืด เป็นต้น
- ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านขวาล่างอักเสบ
- ท้องนอกมดลูก
- มีซีสต์หรือเนื้องอกที่ปีกมดลูกหรือรังไข่ขวา
3. ปวดท้องบริเวณด้านซ้านบน สาเหตุ ได้แก่
- โรคกระเพาะอาหารอักเสบ อาการปวดจะเป็นบริเวณลิ้นปี่ลงไปถึงเหนือสะดือหรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน อาการปวดอาจเป็นเวลาหิวก่อนทานอาหาร หรือหลังทานอาหารไปแล้วก็ได้ นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น
- กรดไหลย้อน อาการจะคล้ายๆ กับกระเพาะอาหารอักเสบ และจะมีปวดแสบร้อนกลางหน้าอก มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอตลอดเวลา ไอแห้งๆ เป็นต้น
4. ปวดท้องบริเวณด้านซ้ายล่าง สาเหตุ ได้แก่
- ลำไส้ส่วนที่อยู่ช่องท้องด้านซ้ายล่างอักเสบ
- ถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ อาการจะคล้ายกับไส้ติ่งอักเสบ แต่อาการปวดจะอยู่ทางด้านซ้ายแทน
- ท้องนอกมดลูก
- มีซีสต์หรือเนื้องอกที่ปีกมดลูกหรือรังไข่ซ้าย
5. หากปวดบริเวณตรงกลางท้องน้อย อาจเกิดจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่จะมีอาการปัสสาวะที่ผิดปกติร่วมด้วย หรือมีมดลูกอักเสบ มีเนื้องอกมดลูก เป็นต้น
นอกจากนี้ อาจเป็นอาการปวดท้องในช่วงก่อนการมีประจำเดือนมาก็ได้
ในเบื้องต้น หากมีอาการคล้ายกับโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และทานยาเคลือบกระเพาะแล้วอาการดีขึ้น ก็อาจดูแลแบบโรคกระเพาะไปก่อน ได้แก่ การทานอาหารอ่อนย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ เนื้อสัตว์ติดมัน หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ โอเลี้ยง โกโก้ ช็อกโกแลต และน้ำอัดลมอัดแก๊สต่างๆ สำหรับยาเคลือบกระเพาะที่ทาน ควรทานก่อนอาหาร หรือทานในช่วงที่ท้องว่าง ไม่ควรทานหลังอาหาร เพราะประสิทธิภาพอาจไม่เต็มที่ค่ะ
หากอาการยังไม่ดีขึ้น ปวดท้องรุนแรงขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ โดยเฉพาะการมีไข้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษาค่ะ
-
ถามแพทย์
-
ปวดท้องตั้งเเต่เมื่อวานยังไม่หาย กินยาเคลือบกระเพาะ อาการดีขึ้นเล็กน้อย ควรทำอย่างไร