ถามแพทย์

  • ปวดฟันและได้กลิ่นเหม็นในจมูก ทำอย่าไร

  •  ichitakaseto
    สมาชิก

    ผมมีอาการปวดฟันมานาน 1ปี หรืออาจจะมากกว่า  ตอนนี้เป็นที่ฟันกรามด้านบนขวา ไปตรวจฟันเมื่อ2-3เดือนก่อน หมอก็บอกว่าฟันดีปกติ (เมื่อปี -2ปีก่อน ก็เคยปวดด้านซ้าย) ตอนนี้ปวดบนขวาปวดมากเวลาเคี้ยวอาหารที่เหนียวๆ  ส่วนฟันบนขวาล่างขวา และล่างซ้ายก็มีอาการจิ๊ดๆบ่อยๆ จะยิ่งปวดมากวันที่สั่งน้ำมูกออกมาแล้วมีกลิ่นเหม็นๆฉุนๆ  พอไปหาหมออายุรกรรม หมอก็ให้ยาพวกแก้หวัด แก้ไอ ภูมิแพ้ อะม็อซิลิน กินได้2-3 วันก็ค่อยๆหาย กินอยู่เกือบ 2เดือนหมอก็หยุดยา  พอหยุดยา ซัก10-20 วัน ก็จะเริ่มมีกลิ่นเหม็นตอนสั่งน้ำมูกไม่นานอาการปวดก็จะเริ่มกลับมาทีละนิดๆ  บางครั้งผมก็ซื้ออะม็อกซิลิน รึว่า ไดคล็อกซิลินมากินเอง กินได้ไม่กี่วันก็หายปวด  แต่พอหยุดซักพักก็จะเริ่มมีกลิ่นเหม็นเวลาสั่งน้ำมูก อาการปวดฟันก็จะเริ่มๆกลับทีละนิดมาทุกที   

    พอแม่พาไปหาหมอระบบเส้นประสาท หมอเค้าก็บอกว่า พวกปฏิชีวนะไม่ควรกินผมไม่เป็นอะไรเค้าก็ให้ยา  Gabapentin 100/ Polizeb 5 / Quantia 25/ Sisalon 50  กินๆมาจะ2เดือนได้แล้ว ไม่ดีขึ้นเลยมีอาการปวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกต่างหาก ตื่นเช้ามาปวดจิ๊ดๆที่ฟันตลอด แล้วก็สั่งน้ำมูกมีกลิ่นแต่ไม่ค่อยฉุนเกือบทุกวัน นานๆทีจะมีกลิ่นเหม็นไหม้บ้าง

    คือผมอยากทราบว่าผมควรไปหาหมออะไร หรือที่ใหนดีครับ  แล้วผมเป็นโรคอะไรแน่ 

    ichitakaseto  Natthaphat
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะ

    อาการปวดฟันเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ฟันผุ รากประสาทในฟันอักเสบ  การสบฟันที่ผิดปกติ ความผิดปกติของเหงือกโดยรอบ เป็นต้น 

    เรื่องปวดฟัน ขอแนะนำให้ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดก่อน เนื่องจากการรักษาแต่ละสาเหตุนั้นแตกต่างกันค่ะ 

     

    เรื่องกลิ่นเหม็นในจมูกนั้นไม่ทราบว่าเป็นพร้อมๆกับตอนปวดฟันหรือไม่คะ มีอาการอื่นๆ เช่นน้ำมูกเขียว ปวดตามใบหน้า ไข้ ไอเจ็บคอ ร่วมด้วยไหมคะ

    เนื่องจากโรคบางอย่าง เช่น ไซนัสอักเสบ จะทำให้มีอาการได้กลิ่นเหม็นในจมูก การรับกลิ่นเปลี่ยนไป น้ำมูกเขียวข้น ปวดตามใบหน้า รวมถึงปวดฟันในบางรายได้ค่ะ ซึ่งในกรณีนี้ควรเข้ารับการตรวจกับแพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก เพื่อยืนยันผลการตรวจ และให้การรักษาตามสาเหตุของโรคค่ะ

    หากผู้ป่วยไม่ได้มีอาการตามข้างต้น ก็มีความเป็นไปได้เช่นกันค่ะว่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น การอักเสบ การติดเชื้อบางชนิด ความผิดปกติของโครงสร้างภายใน เป็นต้น ซึ่งทางแพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติมตามความเหมาะสมก่อนวินิจฉัยค่ะ