มีอาการหูวิ๊งเป็นเวลานาน

สวัสดีค่ะ คุณ nannutti,

                   อาการมีเสียงในหู (tinnitus) หรือหูอื้อ หมายถึง การได้ยินลดลง หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรอุดหูอยู่ หรือรู้สึกมีเสียงดังในหู ซึ่งอาจเป็นเสียงแหลมวี๊ดๆ คล้ายมีแมลงบินในหู หรือเสียงหึ่งๆ หรือเสียงตุบๆ ตามจังหวะชีพจร เสียงที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงชั่วคราวหรือเป็นอย่างต่อเนื่องและอาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง 

               หากเสียงในหูที่เป็นอยู่ เป็นเสียงแบบแหลมวิ๊ดๆ วิ๊งๆ หรือเสียงหึ่งๆ คล้ายแมลง จะมีสาเหตุได้หลายอย่างเช่น มีขี้หูมากเกินไป โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน สิ่งแปลกปลอมหรือแมลงเข้าหู เป็นหวัด หูชั้นกลางอักเสบ การติดเชื้อซิฟิลิสหรือไวรัสที่ทำให้หูชั้นในอักเสบ ประสาทหูเสื่อมในผู้สูงอายุหรือจากการฟังเสียงดังบ่อยๆ การใช้ยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อประสาทหู เช่น ยาต้านมาลาเรียคลอโรควิน ยาปฏิชีวะนะอิริโทรไมซิน ยาเคมีบำบัดรักษามะเร็งบางชนิด เป็นต้น นอกจากนี้อาจเกิดขึ้นหลังจากการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ หรือสูบบุหรี่ รวมถึงการมีสาเหตุมาจากการมีความเครียด วิตกกังวล อารมณ์ซึมเศร้า หรือเกิดจากนอนไม่หลับก็ได้

                ส่วนเสียงลักษณะอื่นๆ เช่น หากได้ยินเสียงตุบๆ อาจเกิดจากมีเนื้องอกในช่องหู หรือหากได้ยินเสียงภายในร่างกายชัดกว่าปกติ  เช่น เสียงกลืนอาหาร หรือเสียงลมหายใจอย่างที่เป็นอยู่ อาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ โรคมะเร็งหลังโพรงจมูกได้ เป็นต้น

                ดังนั้น หากเมื่อคืนมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ ก็อาจเป็นสาเหตุได้ ส่วนอาการมึนหัวและพะอืดพะอม ก็อาจเกิดจากการนอนหลับพักผ่อนไม่พอเช่นกัน  ในเบื้องต้น อาจหาเวลาในช่วงกลางวันหรือบ่าย เพื่อนอนหลับพักซักครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง งดการทำงานหนักต่างๆ ไปก่อน งดการดื่มชา กาแฟและแอลกฮออล์ ไม่เครียดและวิตกกังวลเกินไป เป็นต้น  หากอาการหูอื้อยังคงเป็นต่อเนื่องทุกวัน หรือเป็นมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือมีอาการเวียนหัวแบบบ้านหมุน ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางหู-คอ-จมูกเพื่อรักษาค่ะ

                 และเพื่อไม่ให้เกิดการแน่นจมูกในช่วงกลางคืนจนรอบกวนการนอนอีก ก็ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่น ห่มผ้าให้มิดชิด ไม่ดื่มน้ำเย็นในช่วงกลางคืน ไม่อาบน้ำเย็น ในห้องนอน หากเปิดหน้าต่าง ก็ควรเปิดแต่เพียงเล็กน้อย ไม่ให้ลมเย็นพัดเข้ามามาก ไม่นอนใกล้หน้าต่าง หากเปิดแอร์ ก็ไม่ควรเปิดจนเย็นเกินไป ไม่นอนใต้แอร์ เป็นต้น