ถามแพทย์

  • กินยาคุมมาหลายเดือน ประจำเดือนมาปกติ หลังประจำเดือนหมด 2 วัน มีเพศสัมพันธ์ 4 ต่อมา มีเจ็บใต้เต้านม อ่อนเพลีย ง่วงนอน ตั้งครรภ์ไหม

  •  riras
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะเรากินยาคุมมาหลายเดือนไม่เคยบืมและตรงเวลาตลอด เดือนนี้ประจำเดือนมาปกติที่ 3 วันหลังประจำเดือนหมด 2 วันก็มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบหลั่งใน แต่หลังจากนั้น 4 วันก็มีอาการเจ็บใต้เต้านม แบบถ้าเอามือไปกดก็จะเจ็บรวมถึงมีอาการอ่อนเพลียง่วงนอนอยู่ตลอด จะใช่อาการตั้งครรภ์หรือเปล่าคะ อาการมาได้เร็วขนาดนี้เลยหรอ

    สวัสดีค่ะ คุณ riras,

                         หากทานยาคุมกำเนิดได้อย่างถูกต้อง คือทานทุกวัน ไม่มีวันที่ลืมทาน ทานยาในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันในแต่ละวัน ไม่มีอาเจียนหลังทานยา ไม่มีท้องเสีย ไม่ได้ทานยาอื่นบางชนิดร่วมด้วย ยาคุมกำเนิดก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ค่ะ ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ในวันใดก็ตาม ดังนั้น การที่มีเพศสัมพันธ์ หลังจากที่ประจำเดือนหมดไป 2 วัน โอกาสในการตั้งครรภ์ก็มีน้อยกว่า 1% ค่ะ

                          ส่วนอาการเจ็บใต้เต้านม อ่อนเพลีย ง่วงนอน ไม่ใช่ลักษณะอาการของการตั้งครรภ์ เพราะอาการของการตั้งครรภ์ จะไม่ได้เกิดขึ้นเร็วภายในไม่กี่วันหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ โดยมักจะเกิดหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 4 สัปดาห์ขึ้นไปค่ะ

                           ดังนั้น อาการที่เกิดขึ้น จึงอาจเกิดจากสาเหตุเช่น การมีความเครียด วิตกกังวล ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย นอนไม่หลับ ทานอาหารไม่ถูกสัดส่วน โดยทานอาหารประเภทแป้งและไขมันมากไป หรือเป็นผลข้างเคียงจากการทานยาบางอย่าง เป็นต้น แนะนำควรสังเกตอาการไปก่อน ในเบื้องต้น ก็ควรลดการทำงานหนัก ไม่นอนดึก ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เป็นต้น

                            ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์ หากกังวล ก็อาจลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดู หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ค่ะ