ถามแพทย์

  • มีอาการไข้อ่อนๆ และคันตามร่างกาย หลังจากเจาะเลือดตรวจไข้เลือดออกไม่พบ

  •  Nostalgic Eik
    สมาชิก

    สวัสดีครับ รบกวนสอบถามตามนี้ครับ

    เมื่อวันอังคารที่ 9 มีไข้ขึ้นสูง ไม่ไอ มีน้ำมูก แล้วกินยาลดไข้จนไข้ลงหมดวันพฤหัสที่ 11 แล้ววันศุกร์ที่ 12 มีออกกำลังกายแล้ววันเสาร์กลับมามีไข้ขึ้นใหม่ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก

    จากนั้นวันจันทร์ที่ 15 ไปหาหมอเพื่อตรวจไข้เลือดออก หมอทักว่าหน้าแดงมากมีแนวโน้มเป็นไข้เลือดออก จึงเจาะเลือด Test igG, igM แต่ไม่เจอเชื้อ

    ทางหมอให้ยาละลายเสมหะ, ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย, พารา ให้กิน 3 วันเพื่อดูอาการ หลังจากกินครบไข้ลดลง แต่ยังมีอาการคลื่นไส้ และคันตามตัวทุกวัน

    ปัจจุบันวันที่ 22 ตัวกลับมาอุ่นๆ และยังมีอาการคันตามร่างกาย + ตัวเหมือนมีจุดแดงๆ คล้ายๆ ส่าไข้ (บริเวณที่คันไม่มีผื่น)

    อยากทราบว่าอาการแบบนี้ต้องไปหาหมอเพือเจาะเลือดใหม่หรือไม่ครับ

     

     

    Nostalgic Eik  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ Nostalgic Eik

    การวินิจฉัยที่เป็นไปได้

    -ไข้สูงไม่เกิน 7 วันอาจเกิดจากไข้เลือดออก ไข้สูงลอย ปวดท้องบริเวณขวาบน กินได้น้อย มีจุดแดงตามตัว เกล็ดเลือดต่ำ ดังนั้นหากเป็นไข้มาตั้งแต่วันที่ 9 จนวันนี้ก็ยังมีไข้อยู่ จึงมีโอกาสเป็นไข้เลือดออกได้น้อยมากๆ

    -คออักเสบ ถ้ามีเจ็บคอ ไอ ร่วมด้วย

    -ปอดอักเสบ ถ้ามีอาการไอมาก หอบเหนื่อย

    -ไข้จากระบบทางเดินอาหาร อาจมีคลื่นไส้ ปวดท้อง ถ่ายเหลว

    -ไข้จากระบบทางเดินปัสสาวะ ถ้ามีปัสสาวะแสบขัดหรือเป็นเลือด

    -ไข้เรื้อรังอาจเกิดจาก วัณโรค ไข้ไทฟอยด์ ติดเชื้อ HIV ติดเชื้อมาลาเรีย โรคเมลิออยโดสิส โรคไข้รากสาดชนิดต่างๆ  เช่น ไข้พุพองเทือกเขาร็อกกี้ (Rocky mountain spotted fever) ไข้รากสาดพุ่มไม้หรือไข้รากสาดไรอ่อน โรคติดเชื้อไวรัสอีบีวี (EBV) เป็นต้น

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารอ่อนๆสุกสะอาด รับประทานยาลดไข้และเช็ดตัวลดไข้ทุก 4-6 ชั่วโมง นอนพักผ่อนมากๆ

    ควรกลับไปพบแพทย์หายังมีไข้สูง มีจุดเลือดออกตามตัว เพื่อตรวจร่างกายและตรวจเลือดเพิ่มเติม  ถ้าไม่มีอาการในระบบใดเจาะจงก็อาจจะเป็นการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในร่างกายที่ไม่จำเพาะเจาะจง รักษาตามอาการ จนกว่าไข้จะลง