มีเชื้อ HIV สามารถรักษาซิฟิลิสควบคู่ด้วยกันได้ป่าวครับ

สวัสดีค่ะ คุณ Mavis 1234

การติดเชื้อไวรัสเอชไอวี สามารถเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการติดเชื้อซิฟิลิสได้ค่ะ อย่างไรก็ตามอาการของซิฟิลิสมีหลายระยะค่ะผู้ป่วยจึงมีอาการหลายแบบ แตกต่างกันไป เช่น 

1. ระยะแรก  เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายได้จากทางเยื่อบุ หรือรอยถลอกตามร่างกาย จะมีอาการเป็นแผลเดียว ลักษณะเป็นแผลริมแข็ง หรือ แผลที่มีขอบนูนแข็ง มีต่อมน้ำเหลืองโต กดแล้วไม่เจ็บ จากนั้นจะมีตุ่มแดงออกเป็นแผลที่อวัยวะเพศ หรือบริเวณที่เชื้อโรคเข้าไป แผลจะเป็นอยู่ 1-5 สัปดาห์ และจะหายไปเอง  แต่จะยังมีเชื้อซิฟิลิสอยู่ในกระแสเลือดอยู่

2. ระยะที่สอง
หากผู้ป่วยไม่ได้ทำการรักษา จะเข้าสู่ระยะที่ 2 จะเกิดขึ้นหลังได้รับเชื้อ 16 วัน – 6 เดือน โดยเชื้อจะกระจายไปตามกระแสเลือด ทำให้ปวดตัว ปวดข้อกระดูก ปวดเมื่อตามข้อ เพราะข้ออักเสบ ต่อมน้ำเหลืองจะบวมโต มีผื่นสีแดงน้ำตาลขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ไม่มีอาการคัน และอาจจะมีหูด ในบริเวณที่อับชื้น เช่น รักแร้ ทวารหนัก ขาหนีบ ระยะนี้จึงอาจเรียกได้ว่า ระยะเข้าข้อ หรือออกดอก การตรวจเลือดให้ระยะนี้ เลือดจะให้ผลเป็นบวก

3. ระยะที่3
ระยะนี้อาจจะไม่มีอาการใดๆของโรค แต่จะกินเวลาได้นาน 2-30 ปี ในระยะนี้จะทราบผลว่าเป็นซิฟิลิสได้โดยการเจาะเลือดตรวจ 

4. ระยะที่ 4
ระยะนี้อาจจะกินเวลานานถึง 2-30 ปี หลังจากที่ได้รับเชื้อ โดยเชื้อซิฟิลิสนั้น จะได้เข้าไปทำลายอวัยวะต่างๆผ่านทางกระแสเลือด เช่น หัวใจและหลอดเลือด สมองทำให้อ่อนแรงหรืออาจจะตาบอด กระดูกหักง่าย ซึ่งหากไม่มีการทำการรักษาทันท่วงที จะทำให้อวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้ 

ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์โรคติดเชื้อเพื่อรักษาโรคซิฟิลิสอย่างถูกต้องค่ะ โดยควรแจ้งอาการแก่แพทย์โรคละเอียดรวมถึงผลตรวจเลือดที่ผ่านมา แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับระยะของโรคและผลตรวจเลือดที่พบค่ะ 

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ