ถามแพทย์

  • กินยาคุม ประจำเดือนมา 14-19 ก.ค. มีเพศสัมพันธ์ 25 ก.ค. วันที่ 28 ก.ค. มีเลือดออก ผิดปกติไหม

  •  nobody
    สมาชิก

    ก่อนหน้านี้กินยาคุมมา 4 เดือน และวันที่ 11 ก.ค.เป็นวันที่ยาคุมหมดพอดี และมีประจำเดือนตั้งแต่วันที่ 14-19 ก.ค.ค่ะ ต่อมามีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในวันที่ 25 ก.ค. มีการป้องกันโดยใส่ถุงยาง หลังจากนั้น 3 วันคือวันนี้(28 ก.ค.) มีเลือดออกจากช่องคลอดคล้ายประจำเดือน อยากทราบว่ามีโอกาสเป็นโรคอะไรหรือเป็นอาการที่ผิดปกติหรือไม่คะ

    สวัสดีค่ะ คุณ nobody,

                        หากได้ทานยาคุมกำเนิดครบ 21 เม็ดในวันที่ 11 ก.ค. และได้มีประจำเดือนมาในวันที่ 14-19 ก.ค. ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ และหากหลังจากเว้นระยะการทานยาคุมครบ 7 วันแล้ว ได้เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ต่อในวันที่ 19 ก.ค. การออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็จะเป็นอย่างต่อเนื่อง โดยจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ส่วนเลือดที่ออกในระหว่างที่ทานยาคุมอยู่ ก็น่าจะเป็นเลือดที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมได้ค่ะ หากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มาก ไม่มีปวดท้องน้อยรุนแรง ก็ไม่ได้อันตรายอะไร

                         แต่หากไม่ได้ทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ต่อ การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 25 ก.ค. ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่หากได้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 2%-18% ส่วนเลือดที่ออกในวันที่ 28 ก.ค. ก็อาจเกิดจากการทำงานผลิตฮอร์โมนของรังไข่ที่ผิกปกติไป หรือหากเลือดออกมาเพียง 1 วัน และมีปริมาณน้อย ก็อาจเป็นเลือดออกช่วงไข่ตกก็ได้ ซึ่งควรสังเกตอาการไปก่อน หากยังคงมีเลือดออกมาอีกเรื่อยๆ หรือมีปวดท้องน้อยมาก หรือมีตกขาวที่ผิดปกติร่วม ก็จะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีมดลูกอักเสบ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น ในกรณีนี้ ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทนย์เพื่อตรวจค่ะ

                          ส่วนการที่จะทราบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่นั้น ก็อาจต้องตรวจหาการตั้งครรภ์ดูหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ