ถามแพทย์

  • หลังหยุดกินยาคุม ได้มีเพศสัมพันธ์ แล้วประจำเดือนยังไม่มา จะท้องไหม

  •  wawa1234sss
    สมาชิก

    กินยาคุมมาตลอดประมาณ 3 ปี จนเดือนกุมภาประจำเดือนมาแล้ววันที่ 3 ก.พ. - 4 ก.พ. ตามรอบเดือนปกติ แต่ลืมเริ่มกินยาคุมแผงใหม่ เลยจะรอให้ประจำเดือนรอบต่อไปมาแล้วค่อยกิน ซึ่งควรจะมาวันที่ 1 มี.ค.

    แต่พอ 2 มี.ค. (เลยเที่ยงคืนวันที่ 1 มี.ค มานิดหน่อย) ได้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ใช้ถุงยางและหลั่งนอก เพราะคิดว่าเดี๋ยวประจำเดือนก็น่าจะมาได้แล้วไม่เกินวันถัดไป แต่ประจำเดือนไม่มา ประมาณวันที่ 10 หรือ 11 มี.ค. ลองตรวจครรภ์ดูก็ขึ้นแค่ขีดเดียว และตั้งแต่หลังจากวันที่ 2 มี.ค. ก็มีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางตลอด

    จนวันที่ 24 มี.ค. มีเลือดออกมานิดเดียว โดยที่ก่อนหน้านี้ 2-3 วันมีตกขาว นอกนั้นไม่มีอาการอะไร มีโอกาสท้องได้มากแค่ไหนคะ 

    wawa1234sss  wawa1234sss
    สมาชิก

    wawa1234sss
    Mar 24, 2020 at 04:20 PM

    กินยาคุมมาตลอดประมาณ 3 ปี จนเดือนกุมภาประจำเดือนมาแล้ววันที่ 3 ก.พ. - 4 ก.พ. ตามรอบเดือนปกติ แต่ลืมเริ่มกินยาคุมแผงใหม่ เลยจะรอให้ประจำเดือนรอบต่อไปมาแล้วค่อยกิน ซึ่งควรจะมาวันที่ 1 มี.ค.

    แต่พอ 2 มี.ค. (เลยเที่ยงคืนวันที่ 1 มี.ค มานิดหน่อย) ได้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ใช้ถุงยางและหลั่งนอก เพราะคิดว่าเดี๋ยวประจำเดือนก็น่าจะมาได้แล้วไม่เกินวันถัดไป แต่ประจำเดือนไม่มา ประมาณวันที่ 10 หรือ 11 มี.ค. ลองตรวจครรภ์ดูก็ขึ้นแค่ขีดเดียว และตั้งแต่หลังจากวันที่ 2 มี.ค. ก็มีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางตลอด

    จนวันที่ 24 มี.ค. มีเลือดออกมานิดเดียว โดยที่ก่อนหน้านี้ 2-3 วันมีตกขาว นอกนั้นไม่มีอาการอะไร มีโอกาสท้องได้มากแค่ไหนคะ 

    **แก้ไข -- เดือนกุมภาประจำเดือนมาแล้ววันที่  3 ก.พ. - 6 ก.พ. ตามปกติ

    สวัสดีค่ะ คุณ wawa1234sss,

                        หากประจำเดือนได้มาแล้วในวันที่ 3-6 ก.พ. ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนหน้านั้น แต่หากหลังจากที่ทานยาคุมจนหมดแผง ไม่ได้เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ต่อไป ฤทธิ์ในการป้องกันก็จะหมดลงไป และการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่  1-2 มี.ค. และหลังจากนั้น ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้

                        สำหรับการตรวจหาการตั้งครรภ์ในวันที่ 10-11 มี.ค. ถือว่าเร็วไปที่จะตรวจพบได้ ดังนั้น แนะนำควรลองตรวจซ้ำดูอีกครั้ง หากยังคงตรวจไม่พบ เลือดที่ออกมาปริมาณนิดเดียว ก็อาจเป็นประจำเดือนก็ได้ ซึ่งควรสังเกตประจำเดือนในรอบต่อๆ ไปก่อนว่า จะมาเป็นปกติหรือไม่ หากยังคงมีปริมาณที่น้อยมาก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ เช่น มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ มีภาวะโลหิตจาง เป็นต้น