ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์แล้วมีเลือดออก หลังจากนั้นมีเลือดสีน้ำตาล ผ่านไป 3 วัน มีประจำเดือนมา ปกติไหม

  •  Namploy Pumthong
    สมาชิก
    มีเพศสัมพันธ์กับแฟนเสร็จแล้วมีเลือดออกมาเป็นเลือดสดๆ แต่ไม่มีอาการเจ็บอัวยะเพศ คืดว่าประจำเดือนมาเลยไส่ผ้าอนามัยแต่ไม่มีประจำเดือน มีแค่เลือดสีน้ำตาลเล็กๆตืดผ้าอนามัย ผ่านไป 3 วันประจำเดือนมา แบบนี้ปกติมั้ยคะ กังวลมากก

    สวัสดีค่ะ คุณ Namploy Pumthong,

                         เลือดที่ออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจาก

                        - เป็นเลือดประจำเดือนที่กำลังจะเริ่มมา ซึ่งหลังจากที่มีเลือดออกไปแล้ว 3 วัน ได้มีประจำเดือนมา โดยตรงตามรอบที่ควรจะมา และมานาน 2-7 วัน ก็ถือเป็นประจำเดือนที่ปกติดีค่ะ

                        - การบาดเจ็บของเยื่อบุช่องคลอด จากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง แต่ก็ไม่ได้อันตรายอะไร เลือดจะหยุดไหลไปได้เอง

                        ทั้งนี้ หากมีประจำเดือนมาอยู่ ก็ให้สังเกตต่อไปก่อน เมื่อประจำเดือนหมด หากไม่ได้มีเลือดผิดปกติออกมาอีก และเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่ได้มีเลือดออกมาอีก ก็ไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไรค่ะ

                          แต่หากเมื่อประจำเดือนหมด ได้มีเลือดผิดปกติออกมาอีกเรื่อยๆ หรือเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง ยังคงมีเลือดออกมาอีก ก็จะถือว่าผิดปกติ และควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุ เช่น เกิดจากมีมดลูกอักเสบ มีเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก หรือเกิดจากผลข้างเคียงจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เป็นต้น