ถามแพทย์

  • มีเลือดออกหลังมีประจำเดือน ประจำเดือนมามาก เป็นอะไร

  •  natja
    สมาชิก
    อายุ22 ปีค่ะ มีเลือดออกแค่เปื้อนๆ กางเกงในประมาน7-8วันหลังจากการมีประจำเดือนประมาณ2 สัปดาห์ เป็นแบบนี้มาตลอดหลายเดือนและมีอาการปวดหลังเล็กน้อย เคยไป ตรวยภายใน อัลตราซาวด์ และเอกซเรย์เมื่อประมาณ4-5เดือนก่อน หมอบอกว่าปกติดี แต่ยังคงมีเลือดออกอยู่ แบบนี้ถือว่าปกติหรือไม่คะ (ในขณะมีประจำเดือน ประจำเดือนมาเยอะพอสมควร(ประมานวันละ2-3แผ่น)และมา ประมาณ4-5 วันไม่เคยปวดท้อง แต่อาจจะมีอาการปวดหลังลงไปที่ขาบ้างเล็กน้อยค่ะ) (ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ค่ะ)
    natja  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ natja

    เลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดหลังมีประจำเดือน อาจเกิดจาก

    -เนื้องอกมดลูก

    -มีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก

    -มดลูกอักเสบติดเชื้อ อาจมีอาการปวดท้องและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย

    -การอักเสบของช่องคลอด จากการติดเชื้อต่างๆ เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย

    - ผลข้างเคียงจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริม

    -การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

    สาเหตุที่พบได้ค่อนข้างบ่อยคือเนื้องอกมดลูกค่ะ อาจมีก้อนคลำได้ที่ท้อง ท้องโตขึ้น ประจำเดือนมามาก ปัสสาวะบ่อย ซึ่งตรวจพบได้จากการอัลตราซาวน์หน้าท้องค่ะ

    แนะนำถ้ายังมีประจำเดือนมามากผิดปกติหรือมีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน ควรกลับไปสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายในและทำอัลตราซาวน์หน้าท้องหาสาเหตุค่ะ 

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น งดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีเลือดออก ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนใดๆมารับประทานเอง และคอยสังเกตอาการดังกล่าวไป