ถามแพทย์

  • หยุดกินยาคุมกำเนิดเพราะไปฉีดวัคซีนโควิด หลังจากนั้น 1 วัน ได้มีเพศสัมพันธ์ แล้วมีเลือดออก เกิดจากอะไร

  •  Tichakorn
    สมาชิก
    ไม่ได้มีอะไรกับแฟนมา 6 เดือน พอมีอะไรกันแล้วรู้สึกเจ็บค่ะ หลังจากมีอะไรกันแล้วประมาณ 5-10 นาที มีเลือดหยดเลอะ กกน แต่ไม่มาก พอตอนดึกก็มีเลือดออกมาอีกค่ะ ไม่มากเหมือนกัน แต่พอมาตอนเช้ามาเยอะเลยคาะเปลี่ยนผ้าอนามัย 3 รอบ จนตอนนี้จะบ่ายสามแล้วเลือดก็ยังมีอยู่ เลือดเป็นสีแดงสด ไม่รู้สึกเจ็บตรงอวัยวะเพศ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใดคะ ต้องรักษายังไงดีคะ( 1.ตอนมีอะไรกันใส่ถุงยางอนามัยแต่รู้สึกถุงยางไม่ค่อยมีเจลหล่อลื่นเลยรู้สึกเจ็บ 2.ไปฉีดวัคซีนโควิดมาก่อนหน้า 1 วัน 3. ก่อนหน้านี้กินยาคุมกำเนิดแต่พอจะไปฉีดวัคซีนเลยหยุดกินไป เมนเพิ่งหมดไปเมื่อวันที่ 15 ที่ผ่านมา) 4. หลังจากเลือดออกก็ยังไม่ได้มีอะไรกันอีกค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Tichakorn,

                        เลือดที่ออกหลังจากที่เพศสัมพันธ์ อาจเกิดจาก

                       1. เลือดจากการหยุดทานยาคุม โดยหากได้หยุดทานยาคุมกำเนิด โดยที่ยังไม่หมดแผง หลังจากหยุดทานยาไป 2-3 วัน ก็ย่อมจะมีเลือดออกมา คล้ายกับการที่ทานยาคุมจนหมดแผง แล้วมีเลือดประจำเดือนมาค่ะ 

                      2. เลือดออกจากการบาดเจ็บของช่องคลอด แต่มักจะมีปริมาณเพียงไม่มา ออกแบบซึมๆ และจะหยุดไหลไปเองภายในไม่กี่วันค่ะ

                      3. มีมดลูกอักเสบ แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย

                      4. มีโรคต่างๆ ของมดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่ก็จะต้องมีเลือดออกผิดปกติออกมาอีกเรื่อยๆ

                      ดังนั้น หากเพิ่งหยุดทานยาคุมกำเนิดไปไม่กี่วัน เลือดที่ออก ก็น่าจะเกิดจากผลของการขาดฮอร์โมนจากยาได้ ไม่ได้อันตรายอะไร ในที่สุดก็จะหยุดไปได้เองค่ะ

                      แต่หากเลือดออกนานเกิน 7 วัน หรือหายไป แล้วมีเลือดออกมาบ่อยๆ อีก หรือมีปวดท้องน้อย แนะนำควรไปพบสูติ-นรีแพทยเพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ