ถามแพทย์

  • อายุ 17-18 ปี หลังประจำเดือนหมด มีเลือดไหลกะกริดกะปรอย ปนมากับตกขาว เจ็บท้องน้อย

  •  Penhathai
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ มีเรื่องสอบถามค่ะ คือหนู 17 ปี ย่าง 18 ปีนี้ คือหนูเป็นประจำเดือนเดือนนี้ เดือนมีนาคม หนูเป็นประจำเดือนได้ 7 วัน ประจำเดือนมาช้ากว่าปกติประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วหลังจากหมดรอบเดือนประมาณ 2-3 วัน มันมีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอด มันไหลแบบกะปริกะปรอยค่ะ อาจจะไหลแบบกะปริกะปรอย มาก่อนหน้านี้ก็ได้ค่ะ ที่มันไหลอาจจะไม่ใช่ประจำเดือน หนูไม่รู้เหมือนกัน อันนี้คือเอาทิชชู่ซับดูถึงรู้ว่ามีเลือดไหลออกมาค่ะ แล้วเลือดมันก็หยุดไหลไปค่ะ ผ่านไป 3-4 วัน มันมีเลือดไหลออกอีก แต่ว่าครั้งนี้มันไหลเหมือนเวลาประจำเดือนมันพึ่งมาวันแรกของเดือนอ่ะค่ะ แล้ววันต่อมาก็ยังมีเลือดไหลกะปริกะปรอยเหมือนเดิมค่ะ ปนกับตกขาวด้วยค่ะ บวกกับเจ็บท้องน้อยร่วมด้วยค่ะ เจ็บท้องน้อย คือเจ็บมาได้ 2-3 วันแล้วค่ะ คือตอนนี้หนูกังวลมาก ไม่รู้เป็นอะไร หนูไม่เคยมี พสพ. ไม่เคยกินยาอะไรเลยค่ะ หนูอยากรู้ว่ามันจะทำยังไงให้เลือดหยุดไหล แล้วก็ไม่เจ็บท้องน้อย หนูกลัวเป็นโรคอ่ะค่ะ ไม่กล้าไปหาหมอด้วย

    สวัสดีค่ะ คุณ Penhathai,

                        หากเพิ่งอายุ 17-18 ปี การที่ประจำเดือนหมดไป 2-3 วัน แล้วมีเลือดไหลออกกะปริดกะปรอย เป็นๆ หายๆ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการผลิตฮอร์โมนที่ผิดปกติของรังไข่ แต่ก็ไม่น่าทำให้มีอาการปวดท้องน้อย ส่วนสาเหตุที่พบได้น้อย อาจเกิดจากการมีเนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่ เนื้องอกที่รังไข่ เป็นต้น โดยสาเหตุเหล่านี้ มักพบในวัยกลางคนมากกว่า

                       นอกจากนี้ อาจเป็นไปได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าช่องคลอด เช่น หากไปว่ายน้ำในแม่น้ำลำคลองมา ก็อาจเป็นปลิงที่เข้าไปในช่องคลอดและทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้ค่ะ 

                        แต่หากเคยมีเพศสัมพันธ์ ก็อาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ การติดเชื้อในช่องคลอด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือเกิดจากการมีมดลูกอักเสบ แต่หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนเลย ก็จะไม่ใช่สาเหตุ

                        หรือหากมีการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น ก็อาจเป็นสาเหตุได้ค่ะ

                         ดังนั้น หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ และไม่ได้ทานยาอะไร แล้วยังคงมีเลือดออก มีอาการปวดท้องและตกขาวร่วม แนะนำว่าควรต้องไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ