ถามแพทย์

  • ตอนดึกท้องจะร้อง มีแก๊สมาก เรอบ่อย ผายลมบ่อย ร้อนในอกและท้อง ถ่ายเหลว กินยาดีขึ้น แต่ไม่หายขาด

  •  blazzerly
    สมาชิก

    มีแก้สเยอะมักเป็นช่วงดึก 3ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน พอดึกท้องจะร้อง มีเสียงลม เรอบ่อย ผายลมบ่อย ตอนกลางคืนมักมีอาการร้อนในตัวแถวอกแถวท้องบางทีร้อนไปถึงรอบดวงตา คล้ายไข้ แต่วัดไม่มีไข้ ไม่ถึง 37 เจ็บแถวหน้าอกบางครั้ง แต่ไม่ถึงกับทนไม่ได้ มีอาการถ่ายแหลวบ้างแต่ไม่เกินวัน 3 ครั้ง พอถ่ายแหลวมักมีอาการจะคล้ายเป็นไข้ แต่วัดไม่ถึง 37 อาการคล้ายไข้ชอบมาตอนกลางคืน พอตื่นเช้ามาก็ทุเลาลง ตอนนี้กินยาลดกรด Omerprazole 1เม็ด แล้วก็ยาน้ำลดกรด Bowagel  กินยาธาตุน้ำขาวด้วยบบรเทาอาการท้องเสีย เคยกินยาฆ่าเชื้อแก้ท้องเสียพอกินก็ดีขึ้นแต่ก็ไม่หายขาด

    สวัสดีค่ะ คุณ blazzerly,

                       อาการมีแก๊สในท้องเยอะ ท้องร้อง เรอบ่อย ผายลมบ่อย ร้อยแวอกแถวท้อง ถ่ายเหลว อาจเกิดจาก 

                     1.โรคกระเพาะอาหารอักเสบ  ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดบริเวณท้องส่วนบน อาจเป็นบริเวณลิ้นปี่ลงไปถึงเหนือสะดือหรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน และอาจทำให้มีถ่ายและท้องเสียได้ เป็นต้น

                    2.โรคกรดไหลย้อนร่วมกับกระเพาะอาหารอักเสบ อาการจะคล้ายๆ กับกระเพาะอาหารอักเสบ แต่จะมีอาการแสบร้อนกลางอกหรือแน่นหน้าอกร่วมด้วย หรือมีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอ เป็นต้น 

                    3. มีนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการปวดท้องบริเวณช่องท้องส่วนบนหรือด้านขวา อาการปวดจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน ปวดนานแต่ละครั้งอย่างน้อย 30 นาทีถึงหลายๆชั่วโมง และมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย อาการปวดมักเกิดขึ้นหลังจากทานอาหารมื้อหนัก หรืออาหารที่มีไขมันสูง นอกจากนี้อาจมีอาการอื่นๆ เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมในกระเพาะอาหาร และอาจมีจุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ด้วย

                     การดูแลตนเองในเบื้องต้น ควรเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย งดการทานเนื้อสัตว์ปริมาณมาก อาหารต้องรสไม่จัด ไม่ทานเผ็ด ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ อาหารผัด เป็นต้น ควรเคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารครั้งละปริมาณมาก ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ ชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ และไม่ควรทานอาหารแล้วนอนทันที ต้องเว้นระยะไปอย่างน้อย 2-4 ชั่วโมง ห้ามทานยาแก้ปวดในกลุ่ม NSAIDs เช่น แก้ปวดเมื่อย ปวดข้อ เป็นต้น  

                     สำหรับยาธาตุน้ำขาว และยา omeprazole ซึ่งเป็นยาลดกรด สามารถที่จะทานได้ โดยหากมีอาการ ก็ควรทานยาต่อเนื่องไปซักระยะ นอกจากนี้ อาจทานยาที่เพิ่มการเคลื่อนตัวของระบบทางเดินอาหาร ซึ่งช่วยให้อาหารเคลื่อนตัวออกจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กได้เร็วขึ้น เช่น ยาเมโทโคลพราไมด์ (metoclopramide) รวมถึงยาที่ลดแก๊สในทางเดินอาหาร เช่น ไดเจสติน (digestin), มาเจสโต (magesto-F) หรือยาไซเมทิโคน (simethicone) เป็นต้น

                      สำหรับยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อแก้ท้องเสีย ไม่แนะนำให้ทาน เนื่องจากหากไม่ได้ท้องเสียจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (มักทำให้ถ่ายเป็นมูก หรือมูกเลือด ปวดท้องบิด มีไข้) ก็ไม่ควรทานไปโดยไม่จำเป็นค่ะ

                      สำหรับไข้ หากวัดอุณหภูมิร่างกายได้ไม่เกิน 37 องศาเซลเซียส ก็แสดงว่าไม่ได้มีไข้ค่ะ

                      หากได้ปฏิบัติตัวดังกล่าวแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น รุนแรงขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ อีก ก็ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางอายุรกรรมค่ะ