ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ หมอให้ทานยาคุมกำเนิด หลังจากนั้นหยุดทาน แล้วได้มีเพศสัมพันธ์ มีประจำเดือนมา หลังจากนั้นยังไม่มา

  •  usagi
    สมาชิก
    คุณหมอคะ ปกติเป็นคนประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่ค่ะ มาเดือนละ 2 ครั้ง บ้าง ไม่มา 2 เดือนล้างค่ะ พบแพทย์แล้วได้รับยาคุมฮอร์โมนต่ำมาทาน ประมาณ 3 กล่อง ปัจจุบันหยุดทานไปประมาณ 4 เดือนแล้วค่ะ คำถามคือ มีเพศสัมพันธ์เมื่อกลางเดือน 2 เดือนที่แล้ว คาดว่าเป็นช่วงไข่ตก แฟนคิดว่าถุงยางแตกเลยเอาออก แต่ดันเสร็จกิจมาดีตรงข้างๆอวัยเพศ แต่เรารีบล้างออก แล้วเห็นตรงกันว่ามันไม่ได้เข้าไปค่ะ หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ ประจำเดือนก็มาปกตินะคะ แต่เดือนนี้ ประจำเดือนยังไม่มาเลย มีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ usagi,

                         หากได้หยุดทานยาคุมกำเนิดไปแล้ว ฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็ย่อมจะหมดลงไป ดังนั้น หากมีเพสสัมพันธ์ ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้หากถุงยางอนามัยแตกค่ะ อย่างไรก็ตาม หากหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไป ได้มีประจำเดือนมา ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น แต่หากเลือดที่ออก มีปริมาณที่น้อยกว่าปกติ และออกเพียงไม่กี่วัน อาจไม่ใช่ประจำเดือนก็ได้ ดังนั้น หากไม่แน่ใจ ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูค่ะ หากตรวจไม่พบ ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น และการที่หากตรวจไม่พบ การที่ประจำเดือนยังไม่มา ก็จะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นต้น 

                        หากตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ แนะนำควรรอดูประจำเดือนต่อไปก่อน หากประจำเดือนยังคงมาผิดปกติ คือนาน 2 เดือนมาครั้ง หรือ มา 2 ครั้งใน 1 เหมือนสมัยก่อน ก็น่าจะเกิดจากการผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ หรืออาจเกิดจากมีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ มีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ เป็นต้น ซึ่งก็อาจต้องกลับไปพบแพทย์เพื่อรักษาต่อไปค่ะ