ถามแพทย์

  • มีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ?

  •  mayrapeeporn
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณหมอ เดือนที่ผ่านมาดิฉันได้รับประทานยาคุมแผงแรกเพื่อใช้ในการคุมกำเนิด แต่รับประทานไปได้ถึงเม็ดที่ 8 จึงหยุดทานพราะมีเลือดออกกระปริดกระปรอย หลังจากหยุดยาคุมทำให้เลือดของดิฉันไหลออกมาเป็นจำนวนมาก คล้ายเป็นประจำเดือนรอบที่สอง ดิฉันจึงไปพบแพทย์ แพทย์จึงให้ยาหยุดเลือดมารับประทานเลือดก็หยุดไหล แต่มาถึงเดือนนี้ประจำเดือนกับมาไม่ตรงกับวันที่เคยมา เพราะดิฉันจะเป็นประจำเดือนในช่วงวันที่ 24-26 ของทุกเดือน จนวันนี้วันที่ 7 เเล้วยังไม่มีประจำเดือนมาเลยค่ะ มีแต่อาการคัดตึงเต้านม และมีอาการตกขาวแบบขุ่น มีปวดท้องหน่วงบ้างบางครั้งค่ะ ซึ่งในเดือนที่ผ่านมานั้นได้มีเพศสัมพันธ์แค่ 2 ครั้ง คือวันที่ 10 กุมภาพันธ์ และวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ป้องกันโดยใช้ถุงยาง ดิฉันอยากทราบว่า ที่ประจำเดือนเคลื่อนหรือขาดไปนี้มีสาเหตุมาจากการกินยาหยุดเลือดได้ไหมคะ หรือจะเป็นการตั้งครรภ์ไหมคะคุณหมอ ขอบคุณคุณหมอล่วงหน้านะคะ 

     สวัสดีค่ะ คุณ mayrapeeporn,

                        การที่ประจำเดือนไม่มา อาจเกิดได้จาก

                        1. การตั้งครรภ์ แม้จะใช้ถุงยางอนามัย แต่ถุงยางก็ไม่สามาถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% จึงยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้

                       2. ผลจากการหยุดทานยาคุมกำเนิด และการทานยาหยุดเลือด (ซึ่งน่าจะเป็นยาฮอร์โมนเช่นกัน)  อาจทำให้รังไข่ยังไม่กลับมาทำงานได้เป็นปกติ ประจำเดือนจึงอาจคลาดเคลื่อนไปได้

                       3. นอกจากนี้หากมีความเครียด ทำงานหนัก อดนอน อดอาหาร ก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้รังไข่ไม่มีการตกไข่และประจำเดือนไม่มาได้

                       ในอันดับแรกแนะนำให้ลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อนค่ะ หากไม่พบการตั้งครรภ์จะได้ไม่ต้องกังวลค่ะ และให้รอประจำเดือนต่อไปอีกซักระยะ ประจำเดือนก็จะมาในที่สุดค่ะ

                        สำหรับอาการคัดตึงเต้านม มีตกขาว ปวดหน่วงท้องน้อย อาจเป็นอาการก่อนการมีประจำเดือนได้ค่ะ แต่หากตกขาวมีลักษณะที่ผิดปกติ คือมีสีเหลืองเขียว มีกลิ่นเหม็นรุนแรง หรือปวดท้องน้อยมาก อาจเกิดจากการติดเชื้อมีมดลูกอักเสบ ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ