เดือน พ.ค. เป็นประจำเดือนทั้งเดือน ต่อมาประจำเดือนมาบ่อยๆ ไปโรงพยาบาลแล้ว ไม่มียารักษา

 สวัสดีค่ะ คุณ อง'ง กวางตุ้ง,

                  การมีเลือดออกนานตลอด 1 เดือน แล้วหลังจากนั้นได้มีประจำเดือนมมาบ่อยๆ อีก ถือเป็นอาการเลือดออกผิดปกติ โดยอาจเกิดจาก 

                  1. มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น แล้วมีแทรกซ้อน เช่น แท้งคุกคาม แท้วไม่ครบ ครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นต้น แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย

                  2. มีมดลูกอักเสบ แต่มักมีตกขาวที่ผิดปกติและอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย

                   3. ความผิดปกติที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่มักพบในหญิงวัยกลางคนขึ้นไป

                   4. การทำงานผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                   5. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น

                    6. การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น

                    หากมีเพศสัมพันธ์ และยังไม่ได้ตรวจหาการตั้งครรภ์ ก็ควรตรวจดูด้วยค่ะ แต่หากตรวจแล้วไม่พบ แนะนำว่าควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ หากตรวจไม่พบโรคต่างๆ แพทย์จะให้ยาปรับฮอร์โมนมาทาน เพื่อไม่ให้เกิดเลือดออกบ่อยๆ และให้ประจำเดือนมาเป็นปกติค่ะ เพราะหากปล่อยให้มีเลือดประจำเดือนออกบ่อยๆ และออกนาน อาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางตามมาได้ค่ะ