ถามแพทย์

  • กินยาคุมกำเนิดไป 12 เม็ด แล้วหยุดทาน ผ่านไป 4 วัน มีเลือดไหลออก หลังจากนั้น ประจำเดือนยังไม่มา จะท้องไหม

  •  Sayjai Nareepangsee
    สมาชิก
    ขออนุญาตสอบถามนะคะ พอดีได้หยุดกินยาคุมแบบ28เม็ดไป กินไปได้ถึงเม็ดที่12ของแผง แล้วหยุดทานไปเลย พอหยุดทานได้4วัน มีเลือดออก1วันแล้วหายไป พอถึงวันรอบเดือนจริงๆก็ไม่มีรอบเดือนมาเลย แต่ระหว่างที่ทานมาได้ถึงเม็ดที่12ของแผง มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบหลั่งในเกือบทุกวัน และหลังจากที่หยุดทานก็มีเพศสัมพันธ์กับแฟนทุกวัน หยุดทานเมื่อวันที่19ตุลาคม65 ปกติรอบเดือนจะมาปลายเดือน แต่นี้วันที่5พ.ย.65ไม่มีวี่แววว่าจะมาเลยค่ะ มีโอกาสจะตั้งครรภ์ได้ไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Sayjai Nareepangsee,

                         หากทานยาคุมกำเนิดไป 12 เม็ด แล้วหยุดทาน ต่อมา 4 วัน ได้มีเลือดออกมา 1 วัน เลือดดังกล่าวเกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมา จากการที่ไม่ได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมนจากยา ไม่ได้ผิดปกติอะไร ซึ่งคล้ายกับการที่ทานยาคุมจนหมดเม็ดที่เป็นฮอร์โมน แล้วหลังจากนั้น 2-4 วัน ก็จะมีประจำเดือนมาค่ะ

                         สำหรับประจำเดือนที่จะมาในรอบต่อไป ก็มักจะมาหลังจากหยุดทานยาไปแล้ว 4-6 สัปดาห์ ดังนั้น ก็ควรต้องรอประจำเดือนต่อไปก่อนค่ะ อย่างไรก็ตาม หากหลังจากที่หยุดทานยาคุม ยังได้มีเพศสัมพันธ์ทุกวัน ก็ย่อมจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น ก็ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ หากตรวจไม่พบ ก็ให้รอประจำเดือนต่อไปก่อนค่ะ 

                          ทั้งนี้ หากยังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ ก็ควรเริ่มทานยาคุมกำเนิดใหม่ โดยควรซื้อแผงใหม่มาทาน โดยอาจรอให้ประจำเดือนมาก่อน แล้วจึงคอยทานค่ะ หรือจะเลือกวิธีฉีดยาคุมกำเนิด หรือใช้แผ่นแปะคุมกำเนิดก็ได้