ถามแพทย์

  • ทานยาแก้ปวดแก้อักเสบวันที่ 14 พ.ค.แล้วยาติดคอ มีแน่นหน้าอก ออกร้อน กลืนลำบาก ต้องพบแพทย์ไหม

  •  Kanchana Sam-arng
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณหมอ ขออนุญาตสอบถามค่ะ เมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมา ทานยาแก้ปวดแก้อักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อพร้อมกันแล้วยาติดคอ ดื่มน้ำเท่าไหร่ก็ไม่ลง มีอาการแน่นหน้าอก หลังจากนั้นมารู้สึกเจ็บคอเหมือนมีอะไรติดอยู่ตลอดเวลา  เริ่มเจ็บกลางอก ออกร้อนค่อนไปทางซ้ายเวลาดื่มน้ำทานอาหาร กลืนน้ำหรืออาหารลำบาก อาการแบบนี้ร้ายแรงถึงขนาดต้องไปพบแพทย์ไหมคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Kanchana Sam-arng,

                        หากยาติดคอ การดื่มน้ำมากๆ ในที่สุดยาก็จะค่อยๆ ละลายลงสู่กระเพาะอาหารไปได้เองค่ะ ซึ่งหากผ่านมา 4 วันแล้ว ยาก็น่าจะละลายหมดแล้วค่ะ ไม่น่าติดอยู่ที่หลอดอาหารอีก

                        สำหรับอาการเจ็บคอ เหมือนมีอะไรติดคอ เจ็บกลางหน้าอก กลืนอาหารลำบาก น่าจะเป็นอาการของโรคกรดไหลย้อน ซึ่งยาแก้ปวดแก้อักเสบที่ทานไป น่าจะเป็นยาที่มีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำให้กรดในกระเพาะอาหารหลั่งมากขึ้น และตามมาด้วยอาการกรดไหลย้อนได้ ซึ่งเมื่อกรดไหลย้อน ย้อนขึ้นมาถึงคอ ก็ทำให้รูู้สึกเจ็บคอ เหมือนมีอะไรติดคอได้ นอกจากนี้ ก็อาจมีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ แน่นหน้าอก เจ็บแสบหน้าอก จุกเสียดแน่นลิ้นปี่ เรอบ่อย เป็นต้น

                        ดัังนั้น ในเบื้องต้น ควรงดการทานยาแก้ปวด คลายกล้ามเนื้อไปก่อน และให้ดูแลแบบโรคกรดไหลย้อน ได้แก่ การเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ เนื้อสัตว์ติดมัน หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ไม่ทานเผ็ด ทานให้พอประมาณ ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน ทานช้าๆ ไม่เร่งรีบ และไม่ควรทายอาหารแล้วนอนทันที ต้องเว้นระยะไปอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และน้ำอัดลมอัดแก๊สต่างๆ เป็นต้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ