ประจำเดือนหายไป 2 เดือน ตรวจแล้วไม่ท้อง ต่อมาหายอีกเดือนกว่า ปวดท้องน้อยบ่อย เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ เจ๊' แก้ม,

                   หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์อย่างถูกต้อง และพบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ดังนั้น การทีประจำเดือนไม่มาเดือนกว่า รวมถึงการที่ประจำเดือนมักจะขาดหายไปนานๆ อาจเกิดจาก

                  1. การมีความเครียด พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป

                  2. โรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้

                   3. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีภาวะมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิวเยอะ และมีขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป    

                   4. มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเผิดปกติ

                   5. มีมดลูกอักเสบ หรือเกิดมีพังผืดเกิดขึ้นในมดลูก ซึ่งจะทำให้มีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย

                   ดังนั้น อาจรอดูประจำเดือนไปก่อน หากประจำเดือนหายไปนานเกิน 3 เดือน หรือนาน 2-3 เดือน จึงจะมาสักครั้ง หรืออาการปวดท้องน้อยเป็นต่อเนื่องหรือปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ