เจ็บคอมากเวลากลืนอาหารหรือน้ำลาย เจ็บไปถึงหู ส่องดูเห็นสีขาวๆในปากก่อนถึงลิ้นไก่ อันตรายไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Thida Phoeng,

                  อาการเจ็บคอเวลากลืนอาหารหรือน้ำลาย ลามไปถึงรูหู อาจเกิดจาก

                  1. คออักเสบหรือคอหอยอักเสบ (pharyngitis) มักเป็นผลจากการที่กำลังเป็นโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่อยู่ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส อาการคือจะมีไข้ ไอ มีเสมหะ เจ็บคอ เสียงแหบ จาม มีน้ำมูก คัดจมูก ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว เป็นต้น

                    มีส่วนน้อยที่คออักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมักจะมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้วิงเวียน คอแดง เจ็บคอ กลืนลำบาก มีจุดหรือแผ่นสีขาวหรือสีเทาบริเวณลำคอ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอบวมโต

                   2. ทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ส่วนน้อยเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยหากเกิดจากเชื้อไวรัส จะมีอาการของไข้หวัดร่วมกับต่อมทอนซิลทั้งสองข้างโตและแดงเล็กน้อย หากเป็นทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการเจ็บคอมากจนกลืนน้ำและอาหารได้ลำบาก มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ต่อมทอนซิลทั้งสองข้างจะบวมโต สีแดงจัด และมักมีแผ่นหรือจุดหนองขาว ๆ เหลือง ๆ ติดอยู่บนทอนซิล อาจมีต่อมน้ำเหลืองที่ข้างคอด้านหน้าโตได้

                  3. โรคกรดไหลย้อน  เนื่องจากกรดที่ไหลย้อนขึ้นมา จะไประคายเคืองคอและทำให้เจ็บคอได้ แต่มักมีอาการอื่นๆร่วมด้วย ได้แก่ อาการปวดแสบร้อนหรือจุกบริเวณลิ้นปี่และหน้าอก อาหารไม่ย่อย เรอบ่อย มีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ เป็นต้น 

                  4. มีเศษอาการติดบริเวณทอนซิลหรือโคนลิ้น จะทำให้รู้สึกเจ็บเวลากลืน 

                  5. มีแผลร้อนในที่คอหอยหรือเพดานอ่อน หรือมีแผลจากโรคอื่นๆ เช่น โรคมือเท้าปาก โรคเฮอร์แปงไจนา เป็นต้น

                 ในเบื้องต้น ควรดูแลตนเอง เช่น การดื่มน้ำเปล่ามากๆ แต่ควรดื่มงดน้ำเย็น พักผ่อนเยอะๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้ ทานอาหารอ่อน ๆ รสจืด งดสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ บ้วนปากล้างลำคอด้วยน้ำเกลือ เป็นต้น หากอาหารเจ็บคอเป็นมาก จนทำให้ดื่มน้ำได้ลำบาก หรือมีไข้สูง แนะนำให้ไปพบแพทย์ค่ะ ซึ่งหากแพทย์ตรวจแล้วพบว่าเป็นคออักเสบหรือทอนซิลอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ก็จะให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อมาทาน เช่น amoxicillin, erythromycin เป็นต้น