-
ไปบริจาคเลือดพบติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี แต่เคยตรวจแล้วพบมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อแล้ว ทำไมจึงติดเชื้ออีก มียารักษาไหม
-
Apr 12, 2018 at 04:22 PM
เนื่องจากไปบริจาคเลือด หมอบอกว่าติดเชื้อไวรัสบี ตกใจมาก ก่อนที่จะบริจาคเลือด 2 เดือนก็ได้ตรวจเลือดแล้ว หมอบอกว่าไม่มีเชื้อนี้ และตรวจภูมิคุ้มกัน ผลก็บอกว่า มีภูมคุ้มกันแล้ว แต่ทำไมต้องมาติดเชื้อนี้อีก มียารักษามั้ยคับ
Apr 12, 2018 at 06:10 PM
สวัสดีค่ะ คุณ changkeaw,
หากเคยตรวจเลือดพบว่ามีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบบีแล้ว ไม่น่าเกิดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้อีก แนะนำลองตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งค่ะ
หากตรวจเลือดแล้วพบว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีจริง แนะนำให้ตรวจซ้ำอีก 6 เดือนต่อมา เนื่องจากผู้ที่เพิ่งติดเชื้อส่วนใหญ่ประมาณ 90% สามารถหายได้เองค่ะ คือร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบบีขึ้นมา ซึ่งในช่วงนี้ยังไม่มีการใช้ยาต้านไวรัสเพื่อรักษาค่ะ แต่หากอีก 6 เดือนต่อมายังคงตรวจพบเชื้อ และไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี แปลว่ามีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรังค่ะ ซึ่งจะต้องประเมินผลต่างๆ ก่อน ได้แก่
- การตรวจเลือดเพื่อประเมินดูภาวะของโรค ได้แก่ HBeAg, HBeAb, และ HBV DNA
- ตรวจติดตามการทำงานของตับ โดยตรวจ ALT (alanine aminotranferase) ทุก 3-6 เดือน
- ตรวจประเมินระยะของโรคตับ ด้วยอัลตราซาวน์ หรือวัดความยืดหยุ่นตับ ด้วยเครื่อง transient elastography
หากการตรวจติดตามเป็นระยะดังกล่าว มีความผิดปกติที่เข้าเกณฑ์การรักษา แพทย์ก็จะจ่ายยาต้านไวรัสให้ค่ะ ซึ่งยาที่ใช้รักษามีทั้งชนิดฉีดเข้าใต้ผิวหนังและยาทาน เช่น Interferon-alpha, lamivudine, entecavir, adefovir, tenofovir เป็นต้น
-
ถามแพทย์
-
ไปบริจาคเลือดพบติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี แต่เคยตรวจแล้วพบมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อแล้ว ทำไมจึงติดเชื้ออีก มียารักษาไหม