หมอให้ยา azithromycin มาทาน โดยทาน 4 เม็ดในครั้งเดียว แล้วมีปวดท้อง ท้องเสีย จะเป็นอะไรไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Patsorn Pond,

                     ยา Azithromycin เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มแมคโครไลน์ (Macrolide) ที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อจากแบคทีเรีย เช่น โรคปอดอักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ โรคติดเชื้อที่ผิวหนังและเนื้อเยื่อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม โรคติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน เป็นต้น

                    สำหรับขนาดวิธีทาน จะขึ้นอยู่กับแต่ละโรค หากเป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น คอหอยอักเสบ ทอนซิลอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ ปอดอักเสบ เป็นต้น หรือ จะทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3 วัน หรือ ทานขนาด 500 มิลลิกรัม 1 ครั้งในวันแรก และทานครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง จนครบ 5 วัน แต่หากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในเทียม จะทานขนาด 1000 มิลลิกรัม ครั้งเดียวเท่านั้น แต่หากเป็นหนองในแท้ จะต้องได้รับการฉีดยาร่วมด้วย

                   ดังนั้น หากยา Azithromycin ที่ทาน เป็นขนาด 250 มิลลิกรัม และทานเพื่อรักษาหนองใน ก็ต้องทานพร้อมกันทีเดียว 4 เม็ดค่ะ แต่หากไม่ใช่เพื่อรักหนองใน ก็ต้องทานแบบอื่นค่ะ

                   สำหรับผลข้างเคียงที่พบได้ ได้แก่ ปวดท้องรุนแรงหรือท้องเสีย และอาจมีเลือดปนด้วย  คลื่นไส้ จุกเสียด ปัสสาวะเหลืองเข้ม เหนื่อย เบื่ออาหาร เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก การเต้นของหัวใจผิดปกติ ผิวหนังอักเสบ มีไข้ เจ็บคอ มีผื่นแดงกระจาย หรือผิวลอก โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและช่วงบนของร่างกาย เป็นต้น

                    ดังนั้น อาการปวดท้องมาก และท้องเสียที่เป็นอยู่ จึงน่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาได้ แนะนำควรดูแลตามอาการ เนื่องจากทานยาครบไปแล้ว โดยการดื่มน้ำเปล่ามากๆ และอาจดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย ทานอาหารปริมาณน้อยๆ ไปก่อน และทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานรสจัด ไม่ดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์ ซึ่งผลข้างเคียงจะเป็นอยู่เพียง 1-2 วันแล้วหายไปได้เอง แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ปวดท้องรุนแรงมากขึ้น ถ่ายปริมาณมาก หรือมีถ่ายเป็นเลือดออกมามาก แนะนำควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ