มีตกขาวเป็นสีเขียวออกมาบ่อยมาก ไม่มีกลิ่น รู้สึกคันช่องคลอด เกิดจากอะไร เดือนนี้เป็น 4-5 ครั้ง ควรทำอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Lalita.mamama

ตกขาวตามปกติที่สามารถมีได้ คือ ควรมีสีขาว ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีฟอง ไม่มีเลือดปน ไม่มีอาการปวดท้องน้อยค่ะ

ดังนั้น การที่มีตกขาวเป็นสีเขียว มีการคันในช่องคลอด หรือมีกลิ่นที่ต่างไปจากเดิม  หรือมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยร่วมด้วย เป็นไปได้ว่าน่าจะมีความผิดปกติค่ะ ส่วนมากเกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอดค่ะ 

โดยอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ 

-การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด (Bacterial vaginosis) มักเกิดจากการที่ขาดภาวะสมดุลของกรดด่างภายในช่องคลอด ตกขาวมักมีสีเหลือง 

-การเชื้อกลุ่มปรสิต (Trichomonas vaginalis) มักมีอาการคัน ตกขาวมีสีเขียว เหม็น แสบคันช่องคลอดมาก บางครั้งมีเลือดปน หรือฝ่ายชายอาจมีสารคัดหลั่งออกมาจากอวัยวะเพศได้เช่นกันค่ะ

-การติดเชื้อรา (Vulvovaginal candiasis) ตกขาวมักเป็นก้อน เหมือนนมบูด มีอาการแสบคันในช่องคลอด หรืออวัยวะเพศด้านนอกค่อนข้างมาก

-หนองในแท้ (Gonorrhea) มักมีตกขาวปริมาณมากขึ้น สีเหลืองเขียว มีอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะเเสบขัดได้

-หนองในเทียม (Chlamydria) อาการตกขาวมักไม่ค่อยรุนแรงค่ะ 

เนื่องจากแต่ละสาเหตุ รักษาด้วยยาต่างชนิดกันค่ะ รวมไปถึงการมีอาการปวดท้องน้อย อาจไม่ได้มีการติดเชื้อเพียงแต่ในช่องคลอด อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้ออุ้งเชิงกรานด้วย หรือบางรายอาจมีการติดเชื้อที่ปากมดลูก 

แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดค่ะ โดยการตรวจภายใน ตอนที่มีอาการจะดีที่สุดค่ะ เเละเพื่อให้การรักษาได้ประสิทธิภาพสูงสุด ลดการกลับมาเป็นซ้ำ นอกจากนี้ การติดเชื้อกลุ่มปรสิต (Trichomonas vaginalis) หรือภาวะหนองใน มีความจำเป็นต้องให้ยาเพื่อรักษาคู่นอนด้วยค่ะ