บ้านหมุน มึนๆ วูบเหมือนจะล้ม แล้วก็แขนขาอ่อนแรง อันตรายไหม ชอบกินแอลกอฮอล์

สวัสดีค่ะ คุณ Kliaoket,

                    อาการบ้านหมุน เหมือนจะล้ม อาจเกิดจาก 

                   - จากการขาดน้ำในร่างกาย เช่น ดื่มน้ำน้อย เสียเหงื่อมาก มีไข้ ท้องเสีย อาเจียน เสียเลือดประจำเดือนมากกว่าปกติ

               - มีภาวะโลหิตจาง 

               - จากความเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่หลับ

               - เมารถ เมาเรือ

                   - โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด หรือ โรคหินปูนในหูชั้นใเคลื่อนที่ (BPPV) 

                - น้ำในหูไม่เท่ากัน  (Meniere's Disease) 

                - ประสาทการทรงตัวอักเสบ (vestibular neuronitis) 

                - ประสาทหูชั้นในอักเสบ (labyrinthitis)

                - การใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อระบบประสาททรงตัวในหูชั้นใน  

                - การบาดเจ็บที่ศีรษะและบริเวณคอ

                - มีเนื้องอกของประสาททรงตัว (vestibular schwannoma) เนื้องอกในสมอง 

                - มีความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิตที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองรวมถึงระบบประสาททรงตัวไม่พอ โดยจะเกิดในผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเบาหวาน เลือดข้นกว่าปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ รวมไปถึงโรคกระดูกคอเสื่อมที่อาจทำให้มีกระดูกงอกไปกดหลอดเลือดขณะที่มีการแหงนศรีษะหรือหันศีรษะ

                 สำหรับอาการแขนขาอ่อนแรง หากเป็นทั้ง 2 ข้างคล้ายๆ กัน ก็ไม่น่าเกิดจากโรคหลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก แต่หากมีอาการแขนและขาอ่อนแรงเพียงข้างเดียว แนะนำควรรีบพาผู้ป่วยไปพบแพทย์โดยเร็วค่ะ โดยอาจเกิดจากเลือดที่ไปเลี้ยงสมองไม่พอ จากการมีหลอดเลือดตีบ (หรือแตก แต่อาการจะรุนแรงกว่า) ซึ่งก็จะทำให้มีอาการเวียนหัวบ้านหมุนในช่วงแรกได้

                 แต่หากอาการแขนขาอ่อนแรง เป็นทั้ง 2 ข้าง คือเป็นทั่วๆ และไม่ได้มีอาการเป็นลมหมดสติไป แนะนำควรสังเกตอาการไปก่อนค่ะ ในเบื้องต้น ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด ดื่มน้ำเยอะๆ เปลี่ยนท่าเวลานั่งหรือนอนช้าๆ งดหรืออย่างน้อยก็ควรลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น หากมีอาการเวียนหัวมากแบบบ้านหมุน อาจลองทานยาแก้เวียนหัว เช่น dimenhydrinate (ไดเมนไฮดริเนต), betahistine (เบต้าฮีสทีน), cinnarizine (ซินนาริซีน) เป็นต้น หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุต่างๆ ดังกล่าวค่ะ