ถามแพทย์

  • ตรวจพบว่ามีภาวะลิ่มเลือดอุดตันขาข้างซ้าย ตอนนี้กินยาวาร์ฟารินอยู่ กังวลกับโรคและการรักษาว่าควรทำอย่างไรต่อไป

  •  RRATNA
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ หนูอายุ 20 ปี ก่อนหน้านี้หนูกินยาคุมเมอซิลอน28 เพื่อปรับฮอร์โมน เพราะประจำเดือนหนูมาไม่ปกติ ได้5แผง ตอนนี้หนูป่วยเป็นลิ่มเลือดอุดตันที่ขาข้างซ้าย พึ่งเป็นวันที่14 ตุลาคม ที่ผ่านมา อาการเริ่มแรกก็คือ หนูนั่งอยู่ดีๆพอลุกขึ้นขาข้างซ้ายก็เกร็งชา ปวดแว๊บขึ้นมา อยู่ๆก็บวมๆๆแดงๆ เช้ามาหนูไปหาหมออนามัย เค้ารักษาไปทางกล้ามเนื้อ ไม่หาย พอวันที่18 หนูไปโรงพยาบาล หมอตรวจเลือด ตรวจฉี่ เอกซเรย์ อัลตราซาวด์ แล้วก็เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ สรุปก็คือหนูเป็นลิ่มเลือดอุดตันที่ขาข้างซ้าย หมอบอกว่ามันเป็นเส้นเลือดกดทับที่ขาหนีบแล้วทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน และยาคุมที่หนูกินก็อาจไปเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดอีก แต่หมออีกคนก็บอกว่าหนูเป็นมาตั้งแต่เกิด อาจจะเป็นกรรมพันธุ์แบบนี้รึเปล่าคะ ตอนนี้หนูกำลังรักษาโดยการกินยาวาร์ฟาริน แต่หมอให้หนูมาปรึกษากันว่าจะรักษายังไง จะใส่ขดลวดไหม แต่หมอก็บอกว่า ไม่รู้ว่าถ้าใส่ขดลวดมันจะสำเร็จไหมเพราะเส้นเลือดที่มันอุดตัน มันใหญ่แล้วก็ยาว ซึ่งตอนนี้หนูไม่รู้ว่าจะทำยังไง หนูจะหายไหม หนูอยากได้คำแนะนำจากคุณหมอค่ะ ตอนนี้จิตตกมากๆ 

    RRATNA  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ RRATNA

    ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำลึกของร่างกาย มักเกิดขึ้นที่บริเวณต้นขาหรือน่อง ทำให้เกิดอาการปวด บวม หรือกดบริเวณขาแล้วรู้สึกเจ็บ แต่ในบางกรณี อาจไม่มีอาการใด ๆ แสดงให้เห็น 

    ปัจจัยที่อาจกระตุ้นภาวะนี้ได้เช่น ความเสียหายของผนังหลอดเลือดจากการได้รับบาดเจ็บ การไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย โดยเฉพาะการนั่งหรืออยู่ในอิริยาบถเดิมติดต่อกันเป็นเวลานาน ความเสียหายของหลอดเลือดระหว่างการผ่าตัด  หรือการได้รับยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด หรือการให้ฮอร์โมนทดแทน

    ซึ่งการรักษาคือการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาวาร์ฟารินดังที่กล่าวมา โดยผู้ป่วยอาจได้รับในรูปแบบยารับประทานหรือยาฉีด เพื่อลดการจับตัวกันของเลือดเป็นลิ่มเลือด ในกรณีที่ลิ่มเลือดอุดตันในตำแหน่งสำคัญหรือสงสัยว่ามีลิ่มเลือดอุดตันที่ปอดร่วมด้วย แพทย์อาจให้ยาละลายลิ่มเลือดผ่านทางการฉีดเข้าสู่หลอดเลือดดำ

    เป็นภาวะที่มีอันตราย แต่สามารถควบคุมได้ด้วยการกินยาต้านการแข็งตัวของเลือดภายใต้การดูแลของแพทย์ ส่วนการทำหัตถการใดๆเพิ่มเติม ต้องอาศัยแพทย์เฉพาะทางที่เห็นตำแหน่งและความรุนแรงของโรคจริงๆเป็นผู้ประเมิน แนะนำการทำตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษา ไม่ต้องกลัวหรือกังวลมากจนเกินไป ถ้าได้กินยาครบถ้วน หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โอกาสที่โรคจะลุกลามหรือร้ายแรงขึ้นก็มีได้น้อยลงค่ะ