ลูกชายอายุ 1 ปี 1 เดือน เพิ่งหายจากโรคอีสุกอีใสมา 1 สัปดาห์ ตอนนี้แม่กำลังมีตุ่มขึ้น ลูกชายจะเป็นอีกไหม

 สวัสดีค่ะ คุณ Nampiung Bebe,

                   หากลูกชายได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์แล้วว่าเป็นโรคอีสุกอีใส ส่วนใหญ่เมื่อเป็นแล้วจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไปตลอดชีวิต โอกาสที่จะกลับเป็นซ้ำอีกนั้นถือว่าน้อยอย่างยิ่ง ดังนั้นหากแม่เป็นโรคอีสุกอีใส โอกาสที่ลูกชายจะติดและเป็นอีกจึงไม่น่าเกิดขึ้นค่ะ

                  อย่างไรก็ตาม การที่แม่มีตุ่มขึ้นตามตัว อาจไม่ใช่โรคอีสุกอีใสก็ได้ ดังนั้นควรสังเกตอาการไปก่อนค่ะ หากเป็นโรคอีสุกอีใส อาการคือจะเริ่มด้วยมีไข้ รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เจ็บคอ เบื่ออาหาร หลังจากนั้น 1-2 วัน จะเกิดผื่นเป็นจุดแดง ๆ ตามร่างกาย  โดยผื่นจะเริ่มที่ใบหน้าและลำตัวก่อนจะลามไปที่แขน ขา ภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาผื่นแดงเหล่านี้จะเริ่มกลายเป็นตุ่มพองที่มีน้ำใส ๆ และกลายเป็นน้ำขุ่น เป็นอยู่ประมาณ 3-6 วัน ก่อนจะเกิดการตกสะเก็ดในเวลาต่อมา และสะเก็ดก็จะค่อยๆ ลอกจางหายไปภายในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ โดยไม่กลายเป็นแผลเป็น หากไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

                   ในเด็กเล็ก ส่วนใหญ่มักมีไม่อาการรุนแรงและไม่ค่อยเกิดภาวะแทรกซ้อน แต่ในวัยรุ่น ผู้ใหญ่ และผู้ที่มีภูมิต้านมานโรคต่ำ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ตุ่มน้ำใสติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนจนเป็นตุ่มหนองหรือกลายเป็นฝี เป็นปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ สมองอักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงจนเสียชีวิตได้

                    ดังนั้นหากอาการของคุณแม่ มีลักษณะตรงกับโรคอีสุกอีใสแนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อพิจารณาทานยาต้านเชื้อไวรัสค่ะ เพื่อป้องกันความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนของโรค อีกทั้งจะช่วยลดระยะเวลาการป่วยเป็นโรคด้วยค่ะ ซึ่งยาที่ใช้รักษาได้แก่ acyclovir, valacyclovir, famciclovir

                  สำหรับการดูแลตนเอง ได้แก่ การดื่มน้ำมากๆ หากมีอาการคันแนะนำให้ใช้ทานยาแก้แพ้ เช่น chlorpheniramine หรือใช้ยาทาภายนอกอย่างคาลาไมน์โลชั่น หากมีไข้และปวดหัว แนะนำให้ทานยาพาราเซตามอล ไม่ควรใช้ยาแอสไพรินค่ะ