ลูกติดเชื้อไวรัส

สวัสดีค่ะ คุณ Parichat,

            โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV (respiratory syncytial virus) มีหลายสายพันธ์ย่อย  เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ส่วนใหญ่มักพบในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งประมาณ 70% มักเกิดปอดบวมและหลอดลมฝอยอักเสบ มักพบมากในช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือน กรกฎาคมถึง พฤศจิกายน

              การติดต่อเกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่มีเชื้อผ่านทางตา จมูกหรือทางการหายใจ โดยผู้ป่วยที่มีเชื้อสามารถกระจายเชื้อให้ลอยปะปนในอากาศภายในรัศมี 90 เซนติเมตรผ่านทางการไอหรือจาม เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะมีระยะฟักตัว 4-6 วัน

              โดยในช่วง 2-4 วันแรกอาการป่วยจะคล้ายไข้หวัดธรรมดา คือ ไข้ต่ำ ไอ มีเสมหะ จาม คัดมูก น้ำมูกไหล เมื่อเชื้อลงสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง จะทำให้หลอดลมอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ และปอดบวมได้ โดยจะมีไข้สูงขึ้น ทานนมและอาหารน้อยลง ไอมากขึ้น ไอจนอาเจียน เสมหะมาก หายใจเหนื่อย หายใจลำบาก หอบ หายใจเร็ว หายใจมีเสียงวี๊ดๆ ตัวเขียว ซึมลง อาจถึงขึ้นเกิดภาวะหายใจล้มเหลวและเสียชิวิตได้

              ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเชื้อไวรัส RSV โดยตรง การรักษาจะเป็นเพียงการดูแลประคับประคองตามอาการเท่านั้น ดังนั้นหากลูกของคุณ Parichat ยังมีแค่ไข้ต่ำๆ มีน้ำมูก จามไอมีเสมหะ สามารถดูแลด้วยตนเองที่บ้านได้ โดยทานยาตามที่คุณหมอให้มา เช็ดตัวเมื่อมีไข้ หลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องแอร์หรือโดนลมจากพัดลมโดยตรง เพราะอาจทำให้น้ำมูก หรือเสมหะเหนียวข้นขึ้น และทำให้หายใจลำบาก มีเสียงดังครรืดคราดได้ และพยายามให้ลูกดื่มน้ำเยอะๆ หลีกเลี่ยงการให้ทานขนมต่างๆ อาหารควรเป็นประเภทต้มหรือนึ่ง ไม่ควรให้ทานของทอดหรือผัด หากเด็กมีน้ำมูกมากอาจใช้ไม้พันสำลีจุ่มน้ำเกลือแล้วสอดเข้าไปเช็ดรูจมูกทีละข้าง หรือใช้ลูกยางแดงช่วยดูดน้ำมูก หรือใช้อุปกรณ์พ่นน้ำเกลือแบบสเปรย์สำหรับพ่นจมูกก็ได้ 

            อาการที่ควรพาไปพบแพทย์คือ มีไข้สูงขึ้น ไอมากขึ้น มีเสมหะมาก ไม่ทานน้ำ ไม่ทานนมหรือข้าว หายใจเร็วกว่าปกติ (เกิน 40 ครั้งต่อนาที) หายใจมีเสียงดังวี๊ดๆ หายใจแล้วหน้าอกบุ๋ม ซึมลง เป็นต้น 

             ขอให้ลูกอาการดีขึ้นและหายไวไวนะคะ