ถามแพทย์

  • ลูกอายุ 4 ขวบ ตื่นเช้ามามีขี้ตาสีเขียว เป็นมา 2 วัน เกี่ยวกับเล่นโทรศัพท์ไหม ดูแลเบื้องต้นอย่างไร

  • ลูกสาวอายุสี่ขวบตื่นเช้ามามีขี้ตาสีเขียวติดที่ขนตาแม่ต้องเอาน้ำชุบแล้วเช็ดเป็นแบบนี้มาสองวันแล้วคะ. อันตรายมั้ยคะ. เกี่ยวกับเล่นโทรศัพท์มั้ยคะ. มีวิธีดูแลเบี้ยงต้นมั้ยคะ แบบใช้ยาหยอดตาอะไรประมานนี้คะ

    สวัสดีค่ะ คุณ รอชีดา มะปูเลาะ,

                        อาการมีขี้ตาสีเขียว อาจเกิดจาก

                       1. เยื่อบุตาอักเสบ (conjunctivitis) นอกจากจะทำให้มีขี้ตามากแล้ จะทำให้มีเยื่อบุตาบวม มีสีแดง คันตา เจ็บตา แสบตาโดยอาจเกิดจาก

                           - การติดเชื้อไวรัส มักมีอาการของไข้หวัดร่วมด้วย เช่น มีน้ำมูก คัดจมูก ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ เป็นต้น

                           - การติดเชื้อแบคทีเรีย มักไม่มีอาการของไข้หวัดร่วมด้วย

                           - การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ได้แก่ ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ เชื้อรา ขนสัตว์ อาหารทะเล เป็นต้น แต่อาการหลักคือคันตา ขี้ตามักจะใส ไม่เหนียวข้น ไม่เขียว 

                         2. การระคายเคืองจากสารเคมี เช่น ควันบุหรี่ ควันไฟ ฝุ่นละออง สบู่ แชมพู สเปรย์ คลอรีนในน้ำ เป็นต้น

                         3.เปลือกตาอักเสบ (Blephalitis) เป็นการอักเสบของผิวหนังบริเวณหนังตา ส่วนใหญ่จะเป็นพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง vาการ ได้แก่ เจ็บที่เปลือกตา เปลือกตาบวม แสบตา เคืองตา ตาแดง ตาแฉะ มีขี้ตามาก โดยอาการมักเป็นมากในตอนเช้า มีสะเก็ดเล็กๆ คล้ายรังแคขนตา ขนตาร่วงง่าย

                         4. ตากุ้งยิง แต่นอกจากมีขึ้ตามากแล้ว ก็จะมีอาการปวดและเจ็บตา เปลือกตาบวมแดง เคืองตา ตาแดง น้ำตาไหล และจะมีตุ่มนูนบวมเล็ก ๆ คล้ายสิว หรือเป็นหัวหนองที่เปลือกตา

                         ส่วนการเล่นโทรศัพท์มือถือมากนั้น ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้มีขี้ตามาก แต่อาจทำให้อาการอื่นๆ ที่เป็นอยู่ เป็นมากขึ้นได้ เช่น อาการเจ็บตา แสบตา ปวดตา เป็นต้น ดังนั้น ในขณะที่มีอาการอยู่ ก็ควรลดการเล่นหรืองดการเล่นไปก่อนค่ะ

                         ในเบื้องต้น ให้พยายามกำจัดขี้ตาที่มีปริมาณมาก โดยให้ลูกหลับตาและใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดขี้ตาออกให้หมด แล้วใช้ผ้าปิดตาเพื่อป้องกันการเผลอเอามือขยี้ตา แต่หากเป็นทั้ง 2 ตา ก็อาจปิดตาไม่ได้ และแนะนำควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไม่ และจะได้พิจารณาว่าควรใช้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อสำหรับหยอดตาหรือแบบทานหรือไม่ค่ะ เพราะหากเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย แล้วไม่ได้รับยาปฏิชีวนะ อาการอาจเป็นรุนแรงขึ้นได้