ถามแพทย์

  • ลูกอัณฑะบวม ถ้าหากเดิน,นั่งหรือยืน จะปวดหลังและปวดต้นขาซ้าย และเจ็บลูกอัณฑะด้านซ้าย

  •  Mr.rut
    สมาชิก
    อาการถ้าหากเดิน,นั่งหรือยืนจะปวดหลังและปวดต้นขาซ้าย และเจ็บลูกอัณฑะด้านซ้ายด้วยคับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Mr.rut,

                       หากลูกอัณฑะเกิดการบวมและเจ็บ รวมถึงปวดหลังและต้นขา อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น

                       1. ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ อาการคือจะคลำพบก้อนที่อัณฑะ หรือเห็นลูกอัณฑะบวมโต โดยเฉพาะเวลานั่ง ยืน เดิน หรือไอ และจะยุบหายเวลานอนราบ โดยปกติจะไม่มีอาการเจ็บหรือปวด แต่หากเกิดภาวะแทรกซ้อน คือกลายเป็นไส้เลื่อนชนิดติดคา ก็จะทำให้มีอาการเป็นก้อนบวมและปวดอย่างต่อเนื่อง โดยอสาจปวดร้าวไปถึงท้องน้อยและต้นขาได้ 

                        2. อัณฑะบิดตัว แต่จะมีอาการปวดอัณฑะข้างใดข้างหนึ่งอย่างรุนแรง และเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันภายในไม่กี่ชั่วโมง บางรายอาจมีอาการปวดท้องน้อย หรือคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย 

                      3. อัณฑะอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคคางทูม หรือเชื้อแบคทีเรียที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม อาการคือ ปวด เจ็บอัณฑะ อัณฑะบวมแดง เจ็บเวลาปัสสาวะหรือหลั่งน้ำอสุจิ น้ำอสุจิเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด มีหนองตรงปลายท่อปัสสาวะ เป็นต้น

                       นอกจากนี้ อาการปวดเจ็บอัณฑะ ยังอาจเกิดได้จาก โรคพังผืดอักเสบมีเนื้อตายบริเวณฝีเย็บ (necrotizing fasciitis of perineum) ไขมันของถุงอัณฑะมีเนื้อตายเฉพาะส่วน (necrosis of scrotal fat) เป็นต้น แต่ก็จะไม่ได้ทำให้อัณฑะเกิดการบวมขึ้น

                        หากยังคงมีอาการเจ็บอัณฑะอย่างต่อเนื่อง แนะนำควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ เพราะหากเป็นไส้เลื่อนชนิดติดคา แล้วไม่รับรักษา อาจเกิดลำไส้เน่าตาย และมีอันตรายตามมาได้ค่ะ