ถามแพทย์

  • ลูก 1ขวบ 5 เดือน มีน้ำมูก มีเสมหะ ไอ ไม่เป็นไข้ แต่หายใจแรงแล้วหัวใจเต้นเร็วมาก ต้องไป รพ. ไหม

  •  Naruk Naruk
    สมาชิก
    สอบถามคุณหมอคะ ลูกชาย1ขวบ5เดือนเป็นหวัดมีน้ำมูกมีเสมหะ ไอ ไม่เป็นไข้กินนมได้ปกติร่าเริ่งดื้อซนเหมือนเดิมคะ แต่ตอนนอนฟังเสียงน้องหายใจแรงแล้วหัวใจเต้นเร็วมากคะ อยากสอบถามคุณหมดว่าจะเป็นไรมากมั้ยคะ เป็นมา1อาทิตย์คะไปหาหมอมาได้ยาขยายหลอดลมกับอย่าแก้ไอละลายเสมหะมากินคะตอนนี้ก็ยังไม่หายคะ คุณแม่เพิ่งมาฟังเสียงหัวใจลูกคะว่าเต้นเร็วมากคะ จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลมั้ยคะตอนนี้ ขอบคุณมากคะคุณหมอ

    สวัสดีค่ะ คุณ Naruk Naruk,

                          อาการมีน้ำมูก มีเสมหะ ไอ ของน้อง อาจเกิดจาก

                       1. ไข้หวัดธรรมดา เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น อาการได้แก่ มีไข้ ไอ มีเสมหะ เจ็บคอ เสียงแหบ คัดจมูก มีน้ำมูก จาม ตาแดง อาจมีอาการอาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วยได้ มักหายได้เองใน 1 สัปดาห์ บางรายอาจมีอาการไอต่อเนื่องไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ 

                     2.ไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มอินฟลูเอนซา (Influenza) อาการมักรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา ส่วนใหญ่จะหายได้เองเช่นกันในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ในบางรายโดยเฉพาะเด็กเล็ก คนสูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เป็นต้น

                      3. หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน ส่วนใหญ่มากกว่า 90% เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ดังนั้นอาการโดยส่วนใหญ่คือจะมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่นำมาก่อน และต่อเนื่องด้วยอาการไอมาก ไอบ่อยและมักมีเสมหะร่วมด้วย อาจมีหอบเหนื่อย หายใจลำบากได้ อาการไอมักนานกว่า 1 สัปดาห์ 

                    4.โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV (respiratory syncytial virus) เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ส่วนใหญ่มักพบในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งประมาณ 70% มักมีปอดบวมและหลอดลมฝอยอักเสบ อาการคือในช่วง 2-4 วันแรก จะมีอาการจะคล้ายไข้หวัดธรรมดา เมื่อเชื้อลงสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง จะทำให้หลอดลมอักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ และปอดบวม อาการคือโดยจะมีไข้สูงขึ้น ไอมากขึ้น ไอจนอาเจียน เสมหะมาก หายใจเหนื่อย หายใจลำบาก หอบ หายใจเร็ว หายใจมีเสียงวี๊ดๆ ตัวเขียว ซึมลง

                       ดังนั้น หากน้องไม่มีไข้ ไม่ซึม และไม่ได้มีอาการหายใจเร็ว ดูหอบเหนื่อย มีแค่การหายใจแรง ซึ่งน่าจะเกิดจากการมีน้ำมูกมากหรือน้ำมูกแห้งกรัง ดังนั้น อาจยังไม่จำเป็นต้องรีบพาไปโรงพยาบาลค่ะ ในเบื้องต้น พยายามให้น้องดื่มน้ำมากๆ (น้ำไม่เย็น) หลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องแอร์หรือโดนลมจากพัดลมโดยตรง เพราะอาจทำให้น้ำมูก หรือเสมหะเหนียวข้นขึ้น ทำให้หายใจได้ลำบากขึ้น หลีกเลี่ยงการให้ทานขนมต่างๆ ของทอดหรือผัด เพราะทำให้น้ำมูกและเสมหะเหนียวข้นเช่นกัน อาหารควรเป็นประเภทต้มหรือนึ่ง เป็นต้น 

                        หากมีน้ำมูกไหลออกมามาก ให้ใช้ไม้พันสำลีจุ่มน้ำเกลือแล้วสอดเข้าไปเช็ดรูจมูกทีละข้าง หรือใช้ลูกยางแดงช่วยดูดออกมา โดยใช้ผ้าห่อตัวเด็ก ให้นอนศีรษะสูง ตะแคงหน้าไปด้านหนึ่ง แล้วใช้ปลายของลูกยางแดงใส่ในรูจมูก บีบเอาน้ำมูกออกมา รวมถึงใส่ลงไปในลำคอด้วยแล้วดูดเอาเสมหะออกมา ทั้งนี้อาจใช้น้ำเกลือสำหรับหยอดจมูกหยอดไปข้างละ 1-2 หยดก่อน แล้วตามด้วยการใช้ลูกยางแดงดูดเอาน้ำมูกออกมา หรือใช้อุปกรณ์พ่นน้ำเกลือแบบสเปรย์สำหรับพ่นจมูกก็ได้

                         นอกจากนี้ อาจนำวิธีใช้น้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรมาช่วยให้เด็กหายใจโล่งขึ้น เช่น การใช้หัวหอมหลายๆ หัว ปอกเปลือก ทุบพอบุบ นำไปวางไว้ใกล้ศีรษะเด็กเวลานอน เป็นต้น

                          สำหรับการที่น้องหัวใจเต้นเร็ว อาจเกิดจากผลจ้างเคียงของยาขยายหลอดลมที่ทานไปได้ แนะนำควรงดทานไปก่อน เพราะหากน้องไม่ได้มีอาการของหลอดลมตีบ เช่น หายใจมีเสียงวี๊ดๆ ก็ยังอาจไม่จำเป็นต้องทานค่ะ และให้สังเกตว่าอัตราการเต้นหัวใจของน้องลดลงหรือไม่

                          แต่หากอาการของน้องยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะหากมีไข้ขึ้น มีไอมากขึ้น หรือมีลักษณะหายใจเร็ว (หายใจมากกว่า 30 ครั้งต่อนาที) ดูหอบเหนื่อย ตัวเขียว ซึมลง ก็ควรรีบพาน้องไปพบแพทย์ค่ะ ขอให้อาการของน้องดีขึ้นไวไวค่ะ