ลูกอายุ 8 เดือน มีอาการคัดจมูก ได้ล้างจมูกให้ แล้วไม่มีน้ำไหลออกมา กลัวเป็นอันตราย

สวัสดีค่ะ คุณ วิราวรรณ สร้อยทองคำ,

                    การล้างจมูก ควรล้างเมื่อรู้สึกว่ามีน้ำมูกข้นเหนียว แน่นจมูก และควรทำเมื่อตอนท้องว่าง คือก่อนทานนมหรือหลังทานนมไปแล้วประมาณ 1-2 ชั่วโมงเพราะจะได้ไม่เกิดอาการอาเจียน 

                ก่อนล้างน้ำเกลือ ควรอุ่นน้ำเกลือก่อนการล้างจมูกเสมอ โดยให้มีอุณหภูมิพอเหมาะกับเยื่อบุจมูก การใช้น้ำเกลือที่ไม่ได้อุ่นล้างจมูก  อาจทำให้เกิดการคัดจมูกหลังการล้างได้ การอุ่นน้ำเกลือสามารถทำได้โดยต้มน้ำประปาให้เดือดในหม้อต้ม ซึ่งมีขนาดใหญ่พอที่สามารถใส่ขวดน้ำเกลือเพื่อลงไปอุ่นได้  หลังจากนั้นปิดไฟ  แล้วนำขวดน้ำเกลือใส่ลงไปแช่ในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที (ขวดน้ำเกลือที่ซื้อมาจากโรงพยาบาลหรือร้านขายยาสามารถทนความร้อนได้) แล้วนำขวดน้ำเกลือนั้น ขึ้นมาเทใส่ภาชนะปากกว้าง หรืออาจเทน้ำเกลือลงในภาชนะที่สามารถอุ่นในไมโครเวฟได้ แล้วอุ่นในไมโครเวฟให้อุ่นพอประมาณ  และก่อนนำน้ำเกลือที่อุ่นแล้วนั้นมาล้างจมูก ควรทดสอบกับหลังมือเสียก่อน น้ำเกลือควรจะอุ่นในขนาดที่หลังมือทนได้

                  สำหรับเด็กเล็กที่ยังสั่งน้ำมูกและบ้วนเสมหะเองไม่ได้ ให้ใช้ผ้าห่อตัวเพื่อป้องกันการดิ้น จัดให้ลูกนอนศีรษะยกสูง หยดน้ำเกลือครั้งละ 2 –3 หยด หรือค่อย ๆ สอดปลายกระบอกฉีดยาเข้าไปในรูจมูกข้างที่จะล้างโดยให้วางปลายกระบอกฉีดยาชิด ด้านบนของรูจมูก ค่อย ๆ ฉีดน้ำเกลือครั้งละประมาณ 0.5 ซีซี หรืออาจใช้น้ำเกลือในรูปสเปรย์พ่นจมูกซึ่งมีจำหน่าย พ่นเข้าไปในจมูกเด็ก แทนการหยด จากนั้นใช้ลูกยางแดง ดูดน้ำมูกในจมูกออกมา ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งในรูจมูกแต่ละข้างจนไม่มีน้ำมูกอีก

                  ดังนั้น หากไม่ได้ใช้ลูกยางแดงดูดออกมา น้ำเกลือและน้ำมูกก็อาจไหลลงสู่ลำคอ และลงสู่กระเพาะอาหารได้ ซึ่งก็ไม่ได้อันตรายอะไร เพียงแต่หากน้ำมีปริมาณมาก หรือทำบ่อยๆ เด็กก็อาจได้รับน้ำมากไป จนทำให้ท้องอืด ไม่อยากทานอาหารได้ค่ะ ทั้งนี้ น้ำเกลือและน้ำมูก ไม่น่าไหลลงสู่หลอดลม เพราะหากเป็นเช่นนั้น เด็กก็จะต้องมีอาการสำลักให้เห็น และอาจตามมาด้วยอาการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น มีไข้ขึ้น ไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย เป็นต้น ดังนั้น หากน้องไม่ได้มีอาการอะไรผิดปกติ คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ