ถามแพทย์

  • วันโรคปอด กินยา 1 เดือนมีเสมหะเป็นเลือด ปกติหรือไม่

  •  Toni29
    สมาชิก
    สวัสดีครับ ผมเป็นวัณโรคปอดซึ่งไอมีเลือดปนออกมาจึงเข้ารักษาทานยามา 1 เดือนโดยตรงเวลา อาการก็ดีขึ่นตามลำดับ เหนื่อยลดน้อยลง แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาผมไอเแรงไป 1 ครั้ง ซักครึ่งชั่วโมง มีเสมหะปนเลือดออกมาไม่เยอะ เเละไม่มีอาการเหนื่อย กรณีแบบนี้ เป็นปกติหรือไม่ครับ ตอนนี้กังวลว่าเชื้อจะมีโอกาสดื้อยาหรือไม่ครับ
    Toni29  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ  Toni29

    วัณโรคที่บริเวณปอดเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งภายในปอด ซึ่งอาจไปเกิดที่อวัยวะอื่นๆได้เช่นกันแต่มักพบมากที่ปอด เป็นเชื้อแบคทีเรียที่โตช้าและใช้การรักษานานประมาณ 6-12 เดือนด้วยการกินยาเฉพาะที่ฆ่าเชื้อวัณโรค อาการมักมาด้วยไอเรื้อรัง ไอมีเลือดปน น้ำหนักลด ไข้ต่ำๆตอนกลางคืน ร่วมกับมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยวัณโรค 

    หลังกินยาไปประมาณ 2-4 อาทิตย์ ถ้าเชื้อไม่ดื้อยา อาการมักจะทุเลาลงชัดเจน และตรวจเสมหะน่าจะไม่พบเชื้อในเสมหะออกมาแล้ว

    ในเบื้องต้นสามารถซื้อยาแก้ไอมารับประทานเองเพื่อบรรเทาอาการได้ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้เสมหะไม่ข้นเหนียว และสังเกตอาการต่อไปก่อนค่ะ ถ้ายังมีไอเป็นเลือดออกมาเรื้อรัง เหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ ไข้สูง ควรรีบไปพบแพทย์ และที่สำคัญให้กินยารักษาวัณโรคต่อไปอย่างต่อเนื่องค่ะ