ถามแพทย์

  • หยุดทานยาคุม หลังจากมีประจำเดือนประมาณครึ่งเดือน มีเลือดออกกะปริดกะปรอย มีปวดท้องน้อย

  •  Patchaniwan
    สมาชิก

    กำลังวางแผนที่จะมีน้องค่ะ เลยหยุดกินยาคุม(ก่อนหยุดกินยาคุมหมดแผงประจำเดือนมาปกติดี) ผ่านช่วงเป็นประจำเดือนมาได้ประมาณครึ่งเดือน ก็มีเลือดออกค่ะ แต่ไม่เยอะ กระปริบกระปรอยติดที่กางเกงชั้นในบ่อยๆ อยากถามคุณหมอว่าผิดปกติมั้ยคะ กินยาคุมมาหลายปีแต่พักหลังๆกินแล้วชอบปวดท้องน้อยค่ะ โดยเฉพาะตอนเช้าจะปวดมากพอสายๆมาอาการก็จะหายไปเองค่ะ เป็นบ่อยๆเกือบทุกวัน

    สวัสดีค่ะ คุณ Patchaniwan,

                     เมื่อหยุดทานยาคุมกำเนิด การทำงานของรังไข่และโอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ และประจำเดือนก็จะกลับมาภายใน 4-5 สัปดาห์ 

                      ดังนั้น การมีเลือดออกที่ประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้าย (จากการทานยาคุม) อาจเป็นเลือดที่เกิดจากการตกไข่ หรืออาจเกิดจากการทำงานของรังไข่ที่ยังไม่ปกติก็ได้ หากต้องการจะตั้งครรภ์ ก็ควรมีเพศสัมพันธ์ต่อไปเรื่อยๆ การตั้งครรภ์ก็น่าจะเกิดขึ้นได้ในที่สุดค่ะ

                       สำหรับอาการปวดท้องน้อย อาจเป็นผลข้างเคียงของการทานยาคุมกำเนิดได้ แต่มักจะพบในช่วงแรกของการทานยา หากทานมาหลายปีแล้ว เพิ่งมาปวดท้องน้อย อาจไม่ได้เกิดจากผลของยาคุมค่ะ ดังนั้น ควรสังเกตอาการต่อไป ว่าหากได้หยุดทานยาแล้ว อาการปวดท้องน้อยหายไปหรือไม่ หากยังคงมีอาการปวดท้องน้อย หรือมีอาการเลือดออกผิดปกติ คือออกกะปริดกะปรอยมาอีกเรื่อยๆ แนะนำควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ โดยอาจเกิดจากมีมดลูกอักเสบ มีเนื้องอกหรือซีสต์ที่รังไข่ มีเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น