-
สงสัยว่าเสี่ยงจะได้รับเชื้อ HIV หรือเปล่าครับ
-
Aug 11, 2018 at 09:35 AM
ผมมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกันล่าสุดเมื่อ 6 เดือนที่แล้วครับ และมีออรัลเซ็กฝ่ายหญิงทำให้อีกช่วงเมษา ไม่ใช่คนเดียวกันนะครับ ตอนนี้ผมร้องเพลงเป็นอาชีพมีอาการเจ็บคอบ่อย และมีเม็ดคันขึ้นตรงไหล่ ผมกลัวว่าจะรับเชื้อ hiv หนะครับ ระยะนี้คนที่ได้รับเชื้อจริงๆจะต้องมีอาการยังไงครับ
Aug 13, 2018 at 04:12 PM
สวัสดีคะคุณ Natthawut Taisuwan
ประวัติเสี่ยงของการมีเพศสัมพันธ์แบบที่ไม่ได้ป้องกันอาจจะทำให้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ
ปรกติแล้วอาการเริ่มแรกของคนที่ติดเชื้อไวรัส เอส ไอ วี มักจะเป็นอาการที่ไม่จำเพาะเจาะจงเลยค่ะ
อาจจะมาด้วยไข้ หรือ ปวดตามตัว มีผื่นก็ยังได้ค่ะ อาการเจ็บคอ อาจจะเป็นเนื่องจากการติดเชื้อทางเดินหายใจก็ยังได้ หรือ งานที่คุณทำเองก็อาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องของการอักเสบของสายเสียงได้ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามประวัติที่เสี่ยงคงต้องพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมค่ะ
โรคทางเพศสัมพันธ์ หรือ การติดเชื้อ Sexual transmitted diseases (STD) ซึ่งการติดเชื้อ เอช ไอ วี ก็จัดอยู่ในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ เราจะมาเริ่มต้นจากสิ่งที่คุณกังวลก่อนนะค่ะ คือ เรื่องการเชื้อ เอช ไอ วี เชื้อ เอช ไอ วี คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งซึ่งนำไปสู่การเป็นโรคที่เรียกว่าเอดส์ เชื้อนี้รักษาไม่หาย แต่มียาที่ใช้รักษาได้ค่ะ แต่จะไม่สามารถกำจัดเชื้อให้หมดได้ค่ะ เพราะเชื้อจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ที่เรียกว่า ซีดี 4 (CD4 T cell) ทำให้ร่างกายไม่สามารถที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคอื่นๆ ได้ แต่ปัจจุบันนี้มียาต้านไวรัสที่ดีค่ะ สามารถทำให้ระดับของ ซีดี 4 ไม่ลดต่ำลงได้ และทำให้จำนวนไวรัสลดลงได้ค่ะ
ส่วนสิ่งที่คุณต้องทำคือ คุณต้องทราบก่อนว่า คุณควรที่จะได้พบแพทย์เมื่อไหร่เพื่อตรวจว่าคุณมีการติดเชื้อหรือไม่
ก่อนอื่นเราต้องทำการตรวจระยะแรกก่อน ซึ่งเป็นการตรวจ ที่เรียกว่าการตรวจควบคู่ ระหว่าง HIV antibody และ HIV antigen คือการตรวจหาภูมิคุ้มกันและตัวเชื้อควบคู่กัน การตรวจนี้ในคนส่วนใหญ่สามารถตรวจพบได้ภายใน 2-6 สัปดาห์ หลังจากสัมผัสเชื้อ
แต่ถ้าตรวจเฉพาะ HIV antibody testing ตรวจได้ทั้งจากเลือดและจากน้ำลาย ส่วนใหญ่จะตรวจพบ หลังการสัมผัสเชื้อ ภายในระยะเวลา 3-12 สัปดาห์
หรืออาจจะตรวจ p24 antigen ซึ่งตรวจน้อย และการแปลผลอาจถูกรบกวนได้ด้วยตัวแปรอื่น
ถ้าการตรวจข้างต้นอย่างใดอย่างหนึ่งให้ผลบวก จะต้องมีการตรวจครั้งที่สอง เพื่อยืนยัน โดยการตรวจภูมิคุ้มก้น ซึ่งแตกต่างจากการตรวจแรกถ้าให้ผลบวกอีกครั้ง ให้ตรวจครั้งที่สาม เพื่อจำนวย ไวรัส ซึ่งเรียกว่า HIV RNA test ซึ่งสามารถตรวจหาได้ภายใน 1-4 สัปดาห์หลังการติดเชื้อ
ลักษณะอาการที่จะเกิดขึ้นถ้ามีการติดเชื้อไวรัส เอช ไอ วี แบ่งเป็น 3 ระยะ
ระยะแรก เรียกว่า การติดเชื้อระยะแรก ( acute HIV infection stage ) ซึ่งระยะนี้ อาการจะเกิดขึ้นได้ ภายใน 2-4 สัปดาห์ ลักษณะอาการจะมีลักษณะเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป จะมาด้วยอาการไข้ ปวดตามตัว เจ็บคอ มีผื่น ปวดตามข้อ ถ้าคุณมีอาการดังต่อไปนี้ควรจะรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ซึ่งในกรณีของคุณหมอขอแนะนำว่าคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจยืนยัน ในระยะนี้ไวรัสจะมีจำนวนมากดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ไม่ควรใช้สารเสพติดที่ฉีดเข้าเส้นเลือดโดยใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
ระยะต่อมา จะเป็นระยะที่ไวรัสเริ่มจะอาศัยอยู่ในตัวคนไข้ แต่จะไม่แสดงอาการอะไร เรียกว่า clinical latency stage ซึ่งคือจำนวนไวรัสอาจจะไม่ได้มีมากและระยะนี้อาจยาวนานได้ถึง 10 ปี แต่ระยะยังมีการแพร่กระจายของโรคได้
ระยะสุดท้ายระยะที่เรียกว่า เอดส์ (AIDS) ซึ่งระยะนี้ระดับภูมิคุ้มกันจะต่ำมากทำให้มีโอกาสติดเชื้อฉวยโอกาสได้ขึ้นอยู่กับจำนวน CD 4 ที่เหลืออยู่
ปัจจุบันมียาต้านไวรัสหลายกลุ่มให้เรียกใช้ ดังนั้น ถ้าคุณตรวจพบแต่เนิ่น ๆ และ รักษาอย่างรวดเร็ว และไม่เพิ่มภาวะเสี่ยง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์สะอาด และ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้คุณสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
นอกเหนือจากการติดเชื้อ เอช ไอ วี แล้วคุณควรได้รับการตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ไวรัสตับอักเสบ บี ซี และ โรคซิฟิลิส เป็นต้น
หมอขอให้คำแนะนำว่าคุณควรหยุดรับประทานยาฆ่าเชื้อ และควรจะไปพบแพทย์ทันทีเพื่อตรวจเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการ เพื่อยืนยัน และจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไปค่ะ
-
ถามแพทย์
-
สงสัยว่าเสี่ยงจะได้รับเชื้อ HIV หรือเปล่าครับ