ถามแพทย์

  • หยุุดฉีดยาคุม แล้วมีเพศสัมพันธ์ เลิกกับแฟนมา 2 เดือน ตรวจแล้วไม่ท้อง แต่มีเจ็บเต้านม มีน้ำนมไหล

  • มีเรื่องมาปรึกษาค่ะ คือหนูเคยฉีดยาคุมมาแล้ว6เดือน พอครบ6เดือน ก้อไม่ได้ฉีดต่อ แล้วพอมีรัยกะแฟน ให้แฟนใส่ถุงยาง แต่ประจำเดือนก้อยังไม่มาน่ะ แล้ว มีวันหนึ่งที่แฟนไม่ยอมใส่ถุง มีรัยกัน หลังจากมีรัยกันเสจ แฟนก้อไปซื้อยาคุมฉุกเฉินแบบใหม่ ที่มี1เม็ดมาให้กิน ก้อแกะกินเลย จากนั้นมาอีก2เดือนก็เลิกกัน แล้วตรวจดูมันไม่ท้อง แต่ตอนนี้ นมคัด ปวดมาก ถ้าบีบดู มันจะมีน้ำนมหยด 2หยด ออกมา แต่ไม่ข้น อยากถามหมอค่ะว่าแบบนี้จะท้องใหม เคลียจมากเลยค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ เอ็น เอ เอ็ม อ่ะน่ะ,

                         หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปนานกว่า 2 เดือนแล้ว ไม่พบการตั้งครรภ์ ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ ดังนั้น การที่ประจำเดือนยังไม่มา อาจเกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกยังคงฝ่อบางอยู่จากผลของยาฉีดได้ ทั้งนี้ โดยปกติ เมื่อหยุดฉีดยาคุมกำเนิดไปแล้ว 4-10 เดือน ประจำเดือนจึงจะกลับมาเป็นปกติ บางรายอาจใช้เวลานานเป็นปีได้ค่ะ

                           สำหรับอาการเต้านมคัด ปวดเต้า บีบแล้วมีน้ำนมหยดออกมา อาจเกิดจาก

                           - เป็นอาการที่ประจำเดือนใกล้จะมาได้

                           - เกิดจากการมีความเครียด วิตกกังวล

                           - การที่ไปบีบนวดคลึงเต้านมบ่อยๆ อาจทำให้เนื้อเต้านมอักเสบ เกิดอาการปวดเจ็บ รวมถึงไปกระตุ้นให้มีน้ำนมไหลได้

                           - การมีเนื้องอกหรือมะเร็งที่เต้านม แต่มักจะคลำได้ก้อนที่เต้านนมร่วมด้วย

                           - ใช้ยาบางชนิด รวมไปถึงฮอร์โมนและอาหารเสริมต่างๆ

                           - เป็นเนื้องอกในต่อมใต้สมอง 

                          เนื่องจากตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ จึงไม่ควรเครียดและวิตกกังวลไป แนะนำควรสังเกตอาการไปก่อน และไม่ควรไปบีบนวดคลึงเต้านมอีก หากหลังจากนี้ ยังคงมีอาการเจ็บเต้ามนมมาก และมีน้ำนมไหลออกมาเองโดยไม่ได้เกิดจากการไปบีบ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ