ถามแพทย์

  • เจ็บซอกขาขวา หลังเล่นกีฬา ต่อมาเห็นผดผื่นเป็นแนวดังรูป เป็นงูสวัดหรือไม่

  •  Katsara Naruenatx
    สมาชิก

    http://imageshack.com/a/img923/7675/6ejV0Y.jpg ปัจจุบันผมอายุ 39 ปี เมื่อวานหลังจากออกกำลังกายมีอารเจ็บซอกขาขวา เข้าใจว่าระหว่างเล่นกีฬากางเกงในมันคงไปเสียดสีกับร่องขาหนีบ พอช่วงเช้ายังเจ็บยุก็เลยสังเกตุเห็นผดผื่นเป็นแนวดังรูปจึงสอบถาม เพื่อว่าเป็นงูสวัด จะได้ไปพบแพทย์ครับ...ประวัติผมยังไม่เคยเป็นงูสวัด แต่เคยเป็นอีสุกอีใสแล้วตอนอายุ 18 - 19 ปี และเคยเป็นโรคเริม ด้วย

    รบกวนส่ง link รูปอีกครั้งค่ะ ไม่พบหน้า web ดังกล่าว

    Katsara Naruenatx  Katsara Naruenatx
    สมาชิก
    Katsara Naruenatx  Katsara Naruenatx
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะ คุณ Katsara Naruenatx,

                      จากรูปที่ให้ดู ลักษณะของผื่นเป็นผื่นชนิดนูนสีแดง ไม่มีลักษณะของตุ่มน้ำใสที่ชัดเจน  จึงอาจใช่หรือไม่ใช่โรคงูสวัดก็ได้ค่ะ 

                     โรคงูสวัดจะเกิดเฉพาะในผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน (ส่วนที่เคยเป็นเริมนั้น ไม่ได้ทำให้เป็นงูสวัดค่ะ) และแม้จะเคยเป็นอีสุกอีใสตั้งแต่วัยรุ่น แต่โดยมาก งูสวัดจะปรากฏเมื่ออายุมากแล้ว อาการของงูสวัดคือ ก่อนจะมีผื่นขึ้นประมาณ 1-3 วัน อาจมีอาการปวดแปล๊บๆ แบบปวดเส้นประสาทนำมาก่อน หรือมีอาการคันและแสบร้อนคล้ายถูกไฟไหม้ตรงบริเวณผิวหนังตามแนวเส้นประสาทที่จะเกิดผื่นงูสวัด บางรายอาจมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ปวดท้อง ร่วมด้วย ต่อมาจะมีผื่นแดง ๆ ขึ้นตรงบริเวณที่ปวด แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสเรียงตามแนวผิวหนังที่เลี้ยงโดยเส้นประสาท มีอาการคันและเจ็บปวด แบบปวดแสบปวดร้อน หลังจากนั้นประมาณ 4 วัน ตุ่มน้ำจะเริ่มขุ่น แล้วจะค่อย ๆ แห้งตกสะเก็ดไปใน 7-10 วัน อาการปวดก็จะทุเลาลง อาจหายโดยที่ไม่มีแผลเป็น หรืออาจเป็นแผลเป็นเมื่อตุ่มน้ำเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย บางรายผื่นอาจอยู่นานเป็นเดือนได้

                    ดังนั้นให้ลองสังเกตผื่นไปอีก 1-2 วันว่าผื่นมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสหรือไม่ มีอาการปวดแสบร้อนร่วมด้วยหรือไม่ หากใช่ และไม่ผื่นไม่ขยายวงกว้างมากขึ้นหรือเกิดผื่นที่อีกข้างของลำตัว ก็น่าจะเป็นงูสวัดค่ะ ซึ่งโดยปกติสามารถหายไปเองได้ดังที่กล่าวไป ส่วนการทานยาต้านไวรัสอาจช่วยให้หายเร็วขึ้น

                   หากผื่นไม่มีลักษณะของตุ่มน้ำใส และมีอาการคันมากกว่าอาการปวดแสบร้อน หรือผื่นกระจายออกเป็นวงกว้าง ไม่ได้เป็นตามแนวเส้นประสาท หรือพบที่อีกข้างของลำตัว อาจเป็นผื่นที่เกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ผื่นแพ้สัมผัส การติดเชื้อราที่ผิวหนัง เป็นต้น แต่หากผื่นกระจายทั่วตัว อาจเป็นผื่นจากการแพ้ ผื่นจากการติดเชื้อไวรัส เป็นต้น

                    ไม่ว่าจะเป็นผื่นที่เกิดจากโรคอะไร ควรงดการแคะ แกะ เกา หากเป็นตรงขาหนีบ ต้องระวังการเสียดสีจากกางเกงและกางเกงในดังกล่าว หากมีอาการคัน อาจใช้ยากินแก้แพ้ เช่น chlorpheniramine (CPM), hydroxyzine หรือใช้ยาทาภายนอกร่วมด้วย อย่างคาลาไมน์โลชั่น เป็นต้น

    Katsara Naruenatx  Katsara Naruenatx
    สมาชิก

    ขอบคุณหมอมากครับ...รอสังเกตอาการ ตามคำแนะนำของหมอครับ