ถามแพทย์

  • อายุ 40 ปี หลังจากหยุดทานยาคุม ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายวันที่ 10 มี.ค. แล้วหลังจากนั้นไม่มาอีกเลย เป็นเพราะอะไร ตรวจแล้วไม่ท้อง

  •  Sarim Ketkan
    สมาชิก

    เรียนคุณหมอคะ ดิฉันอายุ40เต็มต้องการมีลูกปกติรอบเดือนมาทุกๆเดือนตรงเวลาเพราะทานยาคุม แต่หลังจากที่เลิกกิน ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย 10/3/65 จนทุกวันนี้รอบเดือนก็ไม่มาอีก ตรวจแล้วไม่เจอว่าท้อง เพราะอะไรคะ(ตอนนี้อยากมีลูกมากๆเลยคะ)ขอบพระคุณหมออย่างมากนะคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Sarim Ketkan,

                          หลังจากหยุดทานยาคุมกำเนิด ประจำเดือนได้มาวันที่ 10 มี.ค. แล้วหลังจากนั้นยังไม่มา โดยได้ตรวจหาการตั้งครรภ์แล้วไม่พบ อาจเป็นไปได้ว่าได้เริ่มเข้าสู่วัยก่อนหมดประจำเดือนแล้วค่ะ ซึ่งจะเริ่มพบได้ตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปค่ะ 

                         และหากอายุ 40 ปีแล้ว โอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้สำเร็จ ก็จะน้อยลง โดยในผู้หญิงที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 5% ค่ะ ทั้งนี้ ในกรณีที่เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นได้ ก็อาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น       

                            - มีโอกาสแท้งได้มากกว่า โดยในหญิงอายุ 25 ปี อัตราเสี่ยงต่อการแท้งจะอยู่ที่ประมาณ 12%-15% หากอายุ 40 ปี โอกาสแท้งจะเพิ่มเป็น 33% หากอายุ 45 ปี พบโอกาสแท้งได้ถึง 50%

                          - มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนระหว่างที่ตั้งครรภ์ได้มากกว่า เช่น เกิดโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ หรือหากเป็นอยู่แล้ว อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากขึ้น

                          - มีโอกาสที่เด็กจะพิการและปัญญาอ่อนจากความผิดปกติของโครโมโซมได้มากขึ้น เช่น ดาวน์ซินโดรม โดยในผู้หญิงอายุ 25 ปี  มีโอกาสที่ลูกจะเป็นดาวน์ซินโดรมประมาณ 1 ใน 1250 ถ้าอายุ 40 ปี มีโอกาสเกิดขึ้นถึง 1 ใน 106 ราย หากอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป มีโอกาสสูงถึงประมาณ 1 ใน 10 

                         - เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ได้มาก เช่น การเกิดรกลอกตัวก่อนกำหนด รกเกาะต่ำ การเสียเลือดมากขณะคลอด เป็นต้น    

                         ดังนั้นหากต้องการมีบุตร ควรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อม ทั้งการตรวจร่างกาย ตรวจเลือดหาโรคต่างๆ ตรวจภายใน หรือตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ และเมื่อเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นแล้ว ควรรีบไปฝากครรภ์ และอยู่ในความดูแลของสูติ-นรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ