ถามแพทย์

  • สอบถามเรื่องกินยา PEP กับการเป็นไวรัสตับอักเสบ บี ถ้าแพทย์ให้หยุดยา PEP ก่อน 3 วัน จะเป็นอะไรไหม

  •  Adder Smoke
    สมาชิก
    พอดีผมไปมีเพศสัมพันธ์แบบเสี่ยงมาเลยไปขอรับPEP แล้วคุณหมอก็ตรวจเลือดเลยได้ทราบว่าตัวผมเป็นไวรัสตับอักเสบบีคุณหมอเลยได้สั้งให้กินยาต้านสูตร TDF FTC 28วัน แล้วหมอนัดหลังกินยาหมด แต่หมอนัดตรวจเลือดก่อนยาหมด3วัน ผลออกมาไม่เป็นHIVขอสอบถามหน่อยว่า ตรวจเลือดก่อน3วันแบบนี้มีโอกาศผลจะไม่ชัดเจนไหม กรณีไวรัสตับอักเสบบี หมอสัั้งให้หยุดยาTDF FTC ไปก่อนเพราะจำนวนไวรัสน้อย กรณีแบบนี้มีโอกาศจำนวนไวรัสจะเพิ่มไหมครับคุณหมอ
    Adder Smoke  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Adder Smoke

    ยาต้านฉุกเฉินหรือ PEPดังกล่าวมานั้น เป็นยาต้านไวรัสที่รับประทานหลังจากไปมีความเสี่ยงการติดเชื้อ hiv การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัยทางช่องคลอด/ทวารหนัก/การใช้ปาก การใช้เข็มฉีดยาหรือของมีคมร่วมกันกับผู้อื่นเป็นต้น โดยรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีความเสี่ยง และรับประทานติดต่อกัน 28 วัน โดยควรรับประทานทุกวันอย่างตรงเวลา ไม่ขาดยา เนื่องจากระดับยาควรจะคงที่ในเลือดตลอด เพื่อควบคุมเชื้อไวรัสให้ได้

    สูตรการใช้ยา PEP นั้นอาจจะพิจารณาจากโรคร่วมของผู้ป่วยไปด้วย กรณีมีตับอักเสบบีอยู่ แพทย์อาจหลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อตับมาก แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นยาที่ยังสามารถต้านไวรัสได้ตามปกติ หรืออาจจะไม่ได้เปลี่ยนสูตรยาใดๆ เพราะเป็นการให้ยาแค่ระยะสั้นๆ

    การตรวจเลือดนั้น หากเป็นการตรวจทั้งเชื้อและภูมิ สามารถให้ผลที่ค่อนข้างแน่นอนได้ที่ 1 เดือนหลังมีความเสี่ยง การเจาะก่อนหน้านั้น 3 วันก็น่าจะให้ผลที่เหมือนกันไม่ต่างกันแต่อย่างใด การหยุดยาก่อนหน้านั้น 3 วันนั้น อาจเพราะแพทย์ตรวจพบว่าค่าการทำงานของตับเริ่มผิดปกติ แล้วเจาะเลือดก็พบว่าไม่ได้มีเชื้อ hiv ในกรณีนี้อาจจะเลือกว่าไม่ควรเสี่ยงจะกินยาต่อ ควรจะหยุดยาดีกว่า ให้ทำตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษา ไม่ต้องกังวลค่ะ และถ้ามนัดกลับไปเจาะเลือดที่ 3 เดือนให้กลับไปเจาะเลือดยืนยันอีกครั้ง