ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์มีช่วงที่ไม่ป้องกัน ตอนนี้มีตุ่มขึ้นตามขา มีโอกาสเป็นโรค hiv ไหม

  •  bee1994
    สมาชิก
    สวัสดีคะ หนูอยากสอบถาม..พอดีหนูไปมีความเสี่ยงมา 12 วัน.. ตอนแรก สอดใส่แบบไม่ใส่ถุงยางแต่เขาไม่ได้เสร็จข้างนอกนะคะ หนูเลยบอกเขาว่าให้ใส่ถุงเขาเลยใส่ ในเวลาต่อมา ..และ หลังจากหนูมีอะไรกับเขาได้ประมาณ 6-7 วัน หนูมีตุ่มขึ้นคะ ขึ้นที่ขา ตุ่มไม่คัน ไม่เจ็บ .. หนูกังวลล มากคะ กลัวจะมีเชื้อ หนูบอกเขาไปตรวจ เขาไม่ยอมไปตรวจ. ตอนนี้ วันทีา12 แล้วที่ มีอะไรกันผ่านมา หนูสามารถตรวจ ได้ใหมคะ ตรวจแล้ว ผลจะแม่นยำไหมคะ
    bee1994  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ bee1994

    การติดเชื้อไวรัส HIV จะติดต่อกันผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย การสัมผัสสารคัดหลั่งจากเยื่อบุตา ปาก อวัยวะเพศของกันและกัน การใช้ของมีคมร่วมกัน หรือของใช้ส่วนตัวที่มีสารคัดหลั่งติดอยู่ร่วมกัน การที่สารคัดหลั่งหรือเลือดมาโดนแผลเปิดขนาดใหญ่ที่ผิวหนัง เป็นต้น

    จากที่กล่าวมา ถ้ามีช่วงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ได้ใส่ถุงยาง และอีกฝ่ายมีเชื้อ HIV ก็มีโอกาสที่จะรับเชื้อได้ โดยอาการในระยะแรกของโรคจะไม่ได้ชัดเจนมากนัก ในบางรายช่วง 2-6 สัปดาห์หลังรับเชื้อ อาจมีไข้ต่ำๆ ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วๆ มีผื่นขึ้นตามตัวเป็นผื่นแดง เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อได้

    อาการตุ่มที่ขาดังกล่าวมา ไม่ใช่อาการจำเพาะเจาะจงต่อโรค HIV หากตอนนี้ยังมีความกังวล ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม แต่หากผ่านมา 12 วัน อาจจะยังตรวจยืนยันได้ไม่ชัดเจน การตรวจยืนยันด้วยผลเลือดชนิดที่ตรวจทั้งภูมิและเชื้อพร้อมกันนั้นจะให้ผลบวกที่แน่นอนได้ประมาณ 1 เดือนหลังมีความเสี่ยง และควรไปยืนยันด้วยการตรวจภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ HIV โดยตรงที่ 3 เดือนหลังมีความเสี่ยงอีกครั้งค่ะ