ถามแพทย์

  • ปวดแขนขา ปวดศีรษะ เกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบบีหรือไม่

  •  Amry Aum
    สมาชิก

    ตรวจพบไวรัสตับอับเสบบีค่ะ แต่ค่ายังไม่มาก แต่เม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ แต่หมอได้นัดตรวจทุก 6 เดือนค่ะ แต่ช่วงนี้จะมีอาการปวดแขน และขา กับปวดศรีษะ รู้สึกเหมือนตัวเองจะเหลืองไม่แน่ใจว่าอาการนี้เกี่ยวกับไวรัสตับหรือเปล่าค่ะ

     

    สวัสดีค่ะคุณ Amry Aum

     

    สาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) สามารถติดต่อได้ทางเลือด (การรับเลือดและผลิตภัณฑ์ของเลือด) ติดต่อผ่านเข็มฉีดยา การฝังเข็ม หรืออุปกรณ์ที่มีเชื้อปนเปื้อน,ติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์, และมารดาเป็นพาหะติดต่อสู่ทารกในตอนคลอด  การติดเชื้อนี้อาจนำไปสู่โรคตับวาย ตับแข็ง และมะเร็งตับได้

     

    เมื่อทราบว่าเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจการทำงานของตับ หากมีการทำงานของตับปกติควรตรวจทุก 3-6เดือน นอกจากนั้นแพทย์อาจจะตรวจเลือดอื่นๆ อัลตร้าซาวด์ตับรวมถึงการตรวจชิ้นเนื้อตับ เพื่อประเมินระยะของโรคและความจำเป็นในการรักษา

     

    ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดของโรคได้

     

    อาการขณะที่มีภาวะตับอักเสบเฉียบพลัน ได้แก่ อ่อนเพลีย ตัวตาเหลือง รู้สึกเหมือนมีไข้  ปวดเมื่อยตามตัว เป็นต้น

     

    ดังนั้นจึงแนะนำให้คุณ Amry Aum ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อการวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

     

    อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ค่ะ