หนังหุ้มอวัยวะเพศปิด เพราะบวมและมีหนอง มีเลือด เป็นมา 1 วัน เป็นอะไร รักษาอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Tiger1361,

                   อาการที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศบวม มีหนอง อาจเกิดจาก

                   1. ปลายองคชาตอักเสบ (balanitis) โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งการติดเชื้ออาจไม่ได้เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ก็ได้ อาการคือผิวหนังที่บริเวณปลายองคชาตจะบวมแดง หรืออาจมีผื่นแดงร่วม หากเกิดจากการติดเชื้อรา มักมีอาการคัน เจ็บแสบ หากเป็นเชื้อแบคทีเรีย มักมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีน้ำเหลืองข้นๆ ออกจากท่อปัสสาวะได้ 

                    2.หนองในแท้ เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการจะปรากฎหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2-10 วัน โดยจะเริ่มจากมีอาการปัสสาวะขัด แสบเวลาปัสสาวะ ต่อมาเริ่มมีมูกใสๆ ไหลซึมออกจากท่อปัสสาวะ ภายใน 12 ชั่วโมงต่อมา จะกลายเป็นหนองข้นสีเหลือง บางรายอาจมีถุงอัณฑะบวมได้ หรือมีการบวมแดงที่หนังหุ้มปลายองคชาตร่วมด้วย 

                    3.โรคหนองในเทียม เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการจะปรากฎหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาการ เช่น แสบที่ท่อปัสสาวะ ปัสสาวะขัด และมีมูกใสๆ หรือมูกขุ่นๆ ออกจากท่อปัสสาวะ 

                     หากก่อนหน้านั้นมีเพศสัมพันธ์ แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ เพราะหากเป็นหนองในแท้หรือหนองในเทียม แล้วไม่รักษา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ 

                     แต่หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาก่อน ก็น่าจะเกิดจากการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้ ซึ่งหากมีหนองออกมาก แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อจ่ายยาปฏิชีวนะรักษาค่ะ แต่หากมีหนองเพียงเล็กน้อย อาจถลกหนังหุ้มปลาย เพื่อล้างอวัยวะเพศด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด หรืออาจใช้น้ำเกลือสำหรับล้างแผลก็ได้ และใช้มือที่สะอาดถูเบาๆ เพื่อขจัดสิ่งหมักหมมที่ตกค้าง แล้วซับให้แห้ง ควรล้างบ่อยๆ วันละ 2-3 ครั้ง และเมื่อจะปัสสาวะ ควรล้างมือทุกครั้งก่อนจับอวัยวะเพศ และต้องถลกหนังหุ้มปลายทุกครั้งที่ปัสสาวะ แต่หากไม่สามารถถลกหนังหุ้มปลายขึ้นได้ ก็แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ