ถามแพทย์

  • หยุดฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 1 เดือน แล้วเปลี่ยนมาเป็นยากิน กินแผงที่ 2 หมดแล้วประจำเดือนไม่มา เพราะอะไร

  •  Prangthong JustOnly
    สมาชิก

    เริ่มจากเป็นซีสที่มดลูกค่ะ รักษาโดยการฉีดยาคุมแบบ 1 เดือน ฉีดไปได้ 5 เข็ม เข็มละ 1 เดือนค่ะ หลังจากนั้นอัลตร้าซาวน์ ซีสยุบไปแล้วค่ะ หมอให้เลิกฉีด แล้วก็เลยเปลี่ยนมาเป็นแบบชนิดกินค่ะ หมดไปแผงแรก มีประจำเดือนมาแบบกระปริบกระปอย ประมาณ 4 วัน แล้วก็เริ่มแผงที่ 2 ตามปกติค่ะ พอหมดแผงที่ 2 ไปได้ประมาณ 7 วันแล้ว ประจำเดือนก็ยังไม่มา รบกวนปรึกษาคุณหมอค่ะว่า เกิดจากการฉีดยาคุมหรือเปล่าค่ะ 

    **หมายเหตุ**1. ยาคุมแผงที่ 2 หลังจากกินไปได้ 10 วัน ก็ไม่ได้ทานไป 1 วัน เนื่องจากอาเจียน คาดว่าน่าจะอาเจียนยาออกมาด้วย แต่หลังจากนั้นก็ทานจนครบปรกติค่ะ

                             2. ถ้ามีเพศสัมพันธ์ จะเสี่ยงกับการตั้งครรภ์มั้ยคะ***

     สวัสดีค่ะ คุณ Prangthong JustOnly,

                         การทีประจำเดือนไม่มา อาจเกิดจาก

                         1. การตั้งครรภ์ เนื่องจากยาคุมกำเนิดนั้นไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% และหากมี 1 วันที่เกิดการอาเจียนออกมา ย่อมทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดลดลงได้

                         2. เป็นผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด ที่หากทานอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เยื่อบุผนังโพรงมดลูกบางลง และทำให้ไม่มีประจำเดือนมาได้ ซึ่งนับรวมตั้งแต่การฉีดยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมที่ฉีดทุก 1 เดือนด้วย

                        ดังนั้น อันดับแรก ควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูก่อนค่ะ หากตรวจไม่พบ ก็ให้ทานยาคุมกำเนิดต่อไปตามปกติค่ะ

    Prangthong JustOnly  Prangthong JustOnly
    สมาชิก

    ค่ะ คุณหมอ แล้วสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ตอนไหนคะ เพราะทานยาคุมหมดแผงไปตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.61 ค่ะ

     

    สามารถตรวจหาได้ตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ หากต้องการให้การตรวจแม่นยำมากขึ้น อาจตรวจจากปัสสาวะแรกในตอนเช้าที่ตอนนอนวันพรุ่งนี้ค่ะ

    Prangthong JustOnly  Prangthong JustOnly
    สมาชิก

    ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ