ไปขนเศษศิลาแลงกลางแดด ต่อมาหลังนิ้วมือแดงมากมา 2-3 วัน ควรทำอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Frame3280,

                    การที่ผิวหนังบริเวณหลังนิ้วมือมีสีแดง อาจเกิดจาก

                   - ผิวหนังเกิดการไหม้แดด จากการที่โดนแดดแรงๆ หรือนานๆ หากเป้นไม่มาก ก็จะทำให้ผิวหนังแดง มีอาการแสบ และอาจปวด โดยจะเป็นอยู่นาน 3-5 วัน และอาจมีผิวลอกในช่วงวันสุดท้าย เนื่องจากมีการผลัดเซลล์ผิวเพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน

                    - เป็นแผลฟกช้ำ โดยอาจเกิดจากการที่เศษศิลาแลงกระแทกโดน ซึ่งแผลฟกช้ำ เป็นแผลชนิดที่ไม่การฉีกขาดหรือแยกตัวของผิวหนัง แต่เกิดการฉีดขาดของหลอดเลือดเล็กๆ ในชั้นเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนัง หรือในชั้นกล้ามเนื้อก็ได้ ทำให้เกิดมีเลือดออกในชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อ และปรากฏเป็นสีแดงขึ้นในช่วงแรก ซึ่งต่อมา สีแดงจะหลายเป็นสีม่วงน้ำเงิน หลังจากนั้น จะกลายเป็นสีม่วงเข้มดำไปนาน 1-5 วัน แล้วจะค่อยๆ กลายเป็นสีเขียวและเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล แล้วจะหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์

                    ทั้งนี้ หากผ่านมา 2-3 วันแล้ว ผิวหนังยังคงเป็นสีแดง ไม่ได้เปลี่ยนเป็นม่วงคล้ำ ก็น่าจะเป็นผิวไหม้แดดมากกว่าเป็นแผลฟกช้ำ ในเบื้องต้น แนะนำควรงดการตากแดดไปก่อน หรืออาจสวมถุงมือเมื่อต้องออกแดด หรือทำงานกลางแดด หากอาการยังเป็นมาไม่นานเกิน 48 ชั่วโมง อาจแช่มือในน้ำเย็น หรือใช้เจลเย็นประคบบ่อยๆ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากการไหม้แดดหรือเป็นแผลฟกช้ำ ก็สามารถช่วยได้ นอกจากนี้ อาจใช้เจลว่านหางจระเข้ทาบ่อยๆ ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวลอก เป็นต้น แต่หากอาการผ่านไปนานเกิน 1 สัปดาห์แล้วอาการแดงที่ผิวหนังยังไม่หายไป ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะ โดยอาจเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดต่างๆ ก็ได้