มีหายใจติดขัด มีน้ำมูก ต้องทำอย่างไร ควรพบแพทย์ไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Nipat Tantong,

                อาการมีน้ำมูก หายใจติดขัด อาจเป็นอาการของไข้หวัดหรือแพ้อากาศก็ได้

               1. หากเป็นไข้หวัด ซึ่งเป็นโรคติดต่อของระบบเดินหายใจ จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส นอกจากจะมีน้ำมูกแล้ว อาจมีอาการอื่นๆ เช่น มีไข้ ไอ มีเสมหะ เสียงแหบ คัดจมูก ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว เป็นต้น อาการเหล่านี้จะหายไปได้เองใน 2 สัปดาห์

               2. โรคภูมิแพ้ ชนิดแพ้อากาศ (allergic rhinitis) จะมีการอักเสบบริเวณโพรงจมูก เนื่องจากแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ นอกจากมีอาการมีน้ำมูกใสไหล และอาจมีอาการคันตา คันจมูก เพดานปาก และลำคอเป็นประจำ จมูกอาจได้กลิ่นลดลง บริเวณใต้ตามักเป็นรอยคล้ำดำ อาการจะเป็นติดต่อระยะเวลานานๆ อาจมีช่วงที่ดีขึ้นสลับกับช่วงอาการกำเริบ

                หากเพิ่งเกิดอาการเพียงไม่นาน ก็น่าจะเป็นไข้หวัดมากกว่าภูมิแพ้ แต่หากเป็นมานานหลายสัปดาห์ หรือเป็นๆ หายๆ บ่อยๆ ก็อาจเป็นภูมิแพ้ได้

                ในเบื้องต้น สามารถดูแลด้วยตัวเองไปก่อนได้ เช่น อาจใช้วิธีล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ หรือทานยาลดอาการคัดจมูก เช่น pseudoephedrine, phenylephrine หรือใช้ยาลดอาการคัดจมูกแบบพ่นหรือหยด เช่น oxymetazoline เป็นต้น หลีกเลี่ยงการโดนอากาศเย็น ไม่ดื่มน้ำเย็น 

                 แต่หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีน้ำมูกปริมาณมากขึ้น สีเขียวหรือเหลืองข้น จมูกไม่ได้กลิ่น ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น มีปวดบริเวณไซนัส ได้แก่ โหนกแก้ม หน้าผาก จมูกตรงระหว่างคิ้ว หัวตา มีไข้ แสดงว่าอาจมีไซนัสอักเสบเกิดขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ