ถามแพทย์

  • หูอื้อมา 3-4 วัน ไม่ปวดหู มีเสียงซ่าๆในหู เสียงจะก้องในหูข้างขวา ก่อนหน้านี้นอนเอานิ้วแคะหู ควรทำอย่างไร

  •  anandak
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะพอดีว่าหูอื้อมา3-4วันแล้ว ไม่มีอาการปวดหูเลยแต่มันมีเสียงซ่าๆในหูเวลาเสียงจะก้องในหูข้างขวาค่ะ ก่อนหน้านี้นอนเอานิ้วแคะหูค่ะ 

    สวัสดีค่ะ คุณ anandak,

                         อาการหูอื้อ หรือมีเสียงในหู (tinnitus) หมายถึง การได้ยินเสียงลดลง ความคมชัดของเสียงลดลง หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรอุดหูอยู่ หรือการมีเสียงดังในหู ซึ่งอาจเป็นเสียงแหลม วี๊ดๆ คล้ายมีแมลงบินในหู หรือเสียงหึ่งๆ หรือเสียงตุบๆ ตามจังหวะชีพจร หรือเสียงลมหายใจ เสียงที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงชั่วคราวหรือเป็นอย่างต่อเนื่อง และอาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง

                          สาเหตุของอาการหูอื้อ อาจเแบ่งตามเสียงที่ได้ยินดังนี้

                         - เสียงแหลมวี้ด ๆ เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน จากอายุที่มากขึ้น หรือจากการได้ยินเสียงดังเป็นเวลานาน ๆ หรือจากการได้ยินเสียงดังมาก ๆ ในทันที เช่น เสียงระเบิด การใช้ยาบางอย่างที่มีผลข้างเคียงต่อประสาทหู หรือเกิดจากมีเนื้องอกของเส้นประสาทหู

                        - เสียงหึ่ง ๆ อื้อ ๆ มักเกิดจากโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งมักจะมีอาการเวียนหัวบ้านหมุนร่วมด้วย

                        - เสียงลม หรือได้ยินเสียงของร่างกายชัดกว่าปกติ เกิดจากการทำงานของท่อปรับความดันหูผิดปกติ เช่น เป็นโรคภูมิแพ้ ทำให้ท่อปรับความดันหู (eustachian tube) บวมและถ่ายเทอากาศไม่ได้ อาการมักเป็นๆหายๆ มักเป็นมากเวลาขึ้นที่สูง ขึ้นเครื่องบิน หรือดำน้ำ  หรืออาจเกิดจากเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก 

                        - เสียงก้องในหู เกิดจากการมีน้ำขังในหูชั้นกลาง ซึ่งเกิดจากหูชั้นกลางอักเสบ

                        - เสียงตุบ ๆ หรือเสียงฟู่ ๆ ที่ดังตามจังหวะการเต้นของชีพจร อาจเกิดจากเนื้องอกในช่องหู หรืออาจเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด ซึ่งเป็นภาวะบางอย่างที่ทำให้เลือดในร่างกายเพิ่มขึ้นและหัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้นจนส่งผลให้เกิดเสียงดังในหู เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ, หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอตีบ หัวใจรั่ว เป็นต้น

                        สาเหตุอื่นๆ นอกจากนี้ ได้แก่ การมีขี้หูอุดตัน การดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ โกโก้  สิ่งแปลกปลอมหรือแมลงเข้าหู หูอื้อที่เกิดหลังจากเป็นหวัด นอกจากนี้อาจเกิดจากภาวะเครียด วิตกกังวล อารมณ์ซึมเศร้า หรือเกิดจากนอนไม่หลับ เป็นต้น 

                        หากยังไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ และอาการเพิ่งเป็นมา 3-4 วัน อาจสังเกตอาการไปก่อน ในเบื้องต้น ไม่ควรใช้นิ้วหรืออะไรไปแคะหู เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบของรูหูได้ หากอาการหูอื้อเป็นติดต่อเกิน 1 สัปดาห์ หรืออาการเป็นมากจนรบกวนการทำงาน แนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางหู-คอ-จมูกเพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ ในช่วงนี้ ก็ควรงดการดื่มชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วยค่ะ