ประจำเดือนมามาก7 วัน ปวดท้องมาก และมีสิวมาเยอะมาก กินยาคุมชนิดไหนดี

สวัสดีค่ะ คุณ ลืม'มม ความทรงจำ,

              อาการปวดประจำเดือน แบ่งออกเป็น

           1. ปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ เป็นการปวดประจำเดือนที่ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ โดยมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างมีประจำเดือน และมาจากสารพรอสตาแกลนดิน ที่หลั่งออกมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกมากกว่าปกติและมาออกฤทธิ์ที่มดลูก ทำให้มดลูกมีการบีบเกร็งตัวและเกิดอาการปวดที่บริเวณท้องน้อย มักพบในวัยรุ่นและวัยสาว โดยจะมีอาการมากที่สุดในช่วงอายุ 15-25 ปี หลังจากวัยนี้ไปอาการจะค่อย ๆ ลดลง มีเพียงส่วนน้อยที่ยังอาจมีอาการตลอดไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน

            2. ปวดประจำเดือนชนิดทุติยภูมิ จะมีอาการปวดก่อนที่จะมีเลือดประจำเดือนมาและจะปวดต่อเนื่องจนกว่าประจำเดือนจะหยุดหรือหลังประจำเดือนหยุด มักปวดครั้งแรกเมื่อมีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป และไม่มีอาการปวดประจำเดือนมาก่อน ซึ่งสาเหตุมาเกิดจากความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ เช่น มีเนื้องอกมดลูก เป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ มีซีสต์ที่รังไข่ โดยเฉพาะช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งเกิดจากเซลล์เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ไปที่รังไข่และก่อตัวเป็นถุงน้ำ หรืออาจเกิดจากการใส่ห่วงคุมกำเนิด เนื่องจากร่างกายพยายามบีบตัวเพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมนั้นออกไป

             ดังนั้นหากคุณ ลืม'มม ความทรงจำ อายุยังน้อย และเริ่มปวดท้องประจำเดือนมาตั้งแต่เริ่มมีประจำเดือน น่าจะเป็นการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิค่ะ แต่หากอาการปวดประจำเดือนเป็นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมีประจำเดือนนานกว่า 7 วัน หรือประจำเดือนมาปริมาณมากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุนะคะ

            ในเบื้องต้นแนะนำวิธีการลอาการปวดประจำเดือน ด้วยการใช้วิธีการประคบอุ่นที่ท้องน้อยด้วยกระเป๋าน้ำร้อน เพราะความร้อนจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่ตึงอยู่ผ่อนคลายลงและช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงได้ หรือการอาบน้ำอุ่น การแช่น้ำอุ่นในอ่าง เป็นต้น ควรดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลมหรือช็อกโกแลต เพราะกาเฟอีนจะทำให้อาการปวดประจำเดือนแย่ลง ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดช่วงเอวแน่นเกินไป เช่น กางเกงยืดรัดรูป ยีนส์ขาเดฟ ยีนส์เอวสูง อาจทานแก้ปวด เช่นพาราเซตามอล (paracetamol) หรือยาในกลุ่มยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น พอนสแตน (ponstan) ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เป็นต้น

             สำหรับการเป็นสิว สาเหตุหนึ่งก็มาจากการเปลี่ยนแปลงขอลฮอร์โมนเช่นกันค่ะ ซึ่่งฮอร์โมนจะมีผลต่อการผลิตไขมันที่มากขึ้นของต่อมไขมัน ทำให้เกิดการอุดตันง่ายขึ้น และเกิดการอักเสบกลายเป็นสิวอักเสบตามมาได้ แนะนำให้ดูแลรักษาสิวด้วยการใช้ยาทาและการดูแลผิวหน้าสำหรับคนเป็นสิวค่ะ ไม่แนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดเพื่อรักษาสิว แต่หากต้องการทานยาเพื่อการคุมกำเนิด โดยให้มีผลในการลดสิวด้วย สามารถทานได้ค่ะ โดยเลือกยาคุมที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย เช่น ยี่ห้อ diane-35, sucee, preme, yaz, yasmin, belara เป็นต้น จะช่วยลดการเกิดสิวได้ดีค่ะ